จากวิศวกร 11 คนและเงิน 200,000 หยวน สู่ผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรายใหญ่ที่สุดในโลก : ตำนานประวัติ Lenovo (เลอโนโว่) ผู้ผลิตและจำหน่ายคอมพิวเตอร์ในตำนาน จากเมืองจีน.
ในปัจจุบันที่แล็ปท็อปนั้นมีให้เลือกมากมาย ผู้บริโภคหลายคนมักจะชี้นิ้วไปหาที่ Lenovo บริษัท Multinational Technology จากประเทศจีนที่ผลิตหลากหลายสินค้าไอที ตั้งแต่สมาร์ทโฟน ยันเครื่องสแกนเนอร์.
แต่ก่อนที่ Lenovo จะกลายร่างมาเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดแล็ปท็อปนั้น จุดเริ่มต้นของ Lenovo นั้นมาจากวิศวกร 11 คน ที่มีเงิน 200,000 หยวน และความลำบากในด้านแรงงาน จนกลายมาเป็นผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรายใหญ่ที่สุดในโลก ที่ยอดขายพุ่งแรงใน 180 ประเทศ.
ในปีค.ศ. 1984 Liu Chuanzhi และเหล่าวิศวกรที่มีประสบการณ์ 10 คน ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Legend ที่เมือง Beijing ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1984 ด้วยเงิน 200,000 หยวน โดยทางรัฐบาลจีนอนุมัติการเปิดบริษัทในวันเดียวกัน โดยเหล่าสมาชิกวิศวกรที่ร่วมกันก่อตั้งบริษัทนั้น เป็นสมาชิกของ Institute of Computing Technology ของ Chinese Academy of Sciences (CAS) และโครงสร้างองค์กรของบริษัทก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1985 หลังตรุษจีน โดยมีทั้งฝ่ายเทคโนโลยี วิศวกรรม บริหาร และสำนักงานหลัก.
Lenovo นั้นเริ่มต้นธุรกิจแรกโดยการนำเข้าเครื่องโทรทัศน์จากต่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้เรื่อง Legend จึงหันไปทำนาฬิกาดิจิตอล แต่ก็ไม่ได้เรื่องเช่นเดียวกัน สุดท้าย Legend ก็ทำงานตรวจสอบคุณภาพบนคอมพิวเตอร์แทน.
เดือนพฤษภาคม ปีค.ศ. 1988 นั้น Lenovo ได้ลงโฆษณารับสมัครงานผ่านทางหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ China Youth News ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่หายากมากในช่วงนั้น ที่บริษัทจะลงโฆษณารับสมัครงานในหนังสือพิมพ์ โดยมีผู้สมัครงานถึง 500 คน 280 คนได้ถูกคัดเลือกเข้าการข้อสอบข้อเขียน 120 ของผู้สมัครเหล่านี้ถูกสัมภาษณ์ ถึงแม้ว่าผู้สัมภาษณ์ในขั้นต้นจะมีอำนาจในการจ้างคนเพียง 16 คน แต่ 58 คนได้รับข้อเสนอ พนักงานใหม่ประกอบด้วย 18 คนที่สำเร็จการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา 37 คนในระดับปริญญาตรี และนักศึกษาสามคนที่ไม่มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย หนึ่งในนั้นคือ Yang Yuanqing ประธานและซีอีโอคนปัจจุบันของ Lenovo.
หลังจากที่ได้พนักงานมาเรียบร้อยแล้ว Liu Chuanzhi ก็ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล ให้จัดตั้งบริษัทในเครือในฮ่องกงและย้ายไปที่นั่นพร้อมกับพนักงานอีกห้าคน และได้คำแนะนำในการทำธุรกิจจากคุณพ่อของ Liu Chuanzhi ที่อยู่ในฮ่องกงด้วย และเพื่อการประหยัดเงินในบริษัทนั้น Liu และพนักงานจะใช้การเดินแทนการขึ้นรถเมล์ และเพื่อรักษารูปลักษณ์ของบริษัท Liu จึงเช่าห้องในโรงแรมเพื่อประชุมกัน.
ในยุค 90's ของ Legend นั้นเริ่มก้าวสู่ตลาดคอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นจาก KT8920 mainframe computer และ circuit board ที่สามารถทำให้คอมพิวเตอร์ระบบ IBM-compatible ประมวลผลอักษรจีนได้.
ปีค.ศ. 1996 Legend กลายเป็นผู้นำตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศจีน และเริ่มผลิตแล็ปท็อปวางขายในตลาด ในปีค.ศ. 1998 ถือหุ้น 43% ของส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศจีน ขายคอมพิวเตอร์ได้ประมาณหนึ่งล้านเครื่อง หนึ่งในคอมพิวเตอร์ที่ทำให้ Legend ได้ไต่ระดับเป็นผู้นำตลาดคอมพิวเตอร์ในจีนนั้นคือ Tianxi คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบให้ผู้บริโภคชาวจีนที่ไม่มีประสบการณ์ในการใช้คอมพิวเตอร์ วางขายในปีค.ศ. 1998 สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ด้วยการออกแบบที่คิดค้นถึง 2 ปี โดยตัวเครื่องนั้นใช้สีแบบ pastel, shell-shaped case, seven-port USB hub บริเวณด้านล่างของจอ และปุ่มที่กดแล้วสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและ Web browser ได้อย่างรวดเร็ว และนอกจากนั้น Legend ยังร่วมมือกันกับ China Telecom เพื่อให้ชาวจีนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ง่ายมากขึ้น จึงแถมบริการอินเตอร์เน็ตฟรี 1 ปีติดมากับตัวเครื่องด้วย ซึ่งยอดขายของ Tianxi นั้นทะลุ 1 ล้านเครื่องในปีค.ศ. 2000.
จนมาถึงยุค 2000's ที่ Legend กำลังจะกลายเป็น Legend ตัวจริง โดยการเปลี่ยนชื่อเป็น Lenovo และทำการซื้อธุรกิจ personal computer ของ IBM ในปีค.ศ. 2005 ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแบรนด์ ThinkPad แบรนด์แล็ปท็อปขวัญใจทุกอาชีพ ทำให้ Lenovo เข้าถึงตลาดต่างประเทศในขณะที่ปรับปรุงทั้งแบรนด์และเทคโนโลยีของ Lenovo ให้มากขึ้น.
โดย Lenovo จ่าย 1.25 พันล้านดอลลาร์สำหรับธุรกิจคอมพิวเตอร์ของ IBM และรับภาระหนี้ของ IBM เพิ่มอีก 500 ล้านดอลลาร์ ทำให้ Lenovo ได้กลายเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่อันดับสามของโลกโดยปริมาณ.
นอกจากคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อปที่ทำให้ Lenovo ได้ไต่ระดับแล้ว Lenovo ยังได้เปิดตัว LePhone Smartphone Series เพื่อบุกตลาด Smartphone ที่กำลังดังระเบิดในช่วงปีค.ศ. 2008 ซึ่งขายดีมากๆ จนต้องขายหุ้น Smartphone และ tablet division มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปพัฒนาคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป และซื้อกลับมาในปีค.ศ. 2009 ด้วยราคา 200 ล้านดอลลาร์.
ในวันที่ 27 มกราคม ปีค.ศ. 2011 Lenovo ได้ร่วมมือกันกับ NEC บริษัทไอทีและคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อผลิตคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อปให้มากขึ้น และทำให้ Lenovo ก้าวไกลไปมากขึ้น.
และจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ของ Lenovo ก็มาถึงเมื่อ IBM ขายสายเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ x86 ซึ่งรวมถึง IBM System x และ IBM Blade Center ให้กับ Lenovo ในปีค.ศ. 2014 ซึ่งทำให้ในปีค.ศ. 2015 Lenovo กลายเป็นผู้ผลิตพีซีอันดับ 1 ของโลก ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 3 และอันดับ 3 ในการผลิตคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต.
ปัจจุบัน Lenovo ยังคงเดินทางขึ้นสู่ความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดไม่หย่อน โดยมีทั้ง ThinkPad ที่ผู้บริโภคทุกคนยังชื่นชอบในความทนทาน ThinkCentre สำหรับธุรกิจ Legion สำหรับชาวเกมเมอร์โดยเฉพาะ และสินค้าอื่นๆ ที่ทาง Lenovo ตั้งใจทำเพื่อมอบสินค้าคุณภาพให้ผู้บริโภคต่อไป.
จากจุดเริ่มต้น 200,000 หยวนและต้องนั่งประชุมในห้องโรงแรม สู่คอมพิวเตอร์สำหรับคนจีน และก้าวมาเป็นผู้นำในตลาดคอมพิวเตอร์ Lenovo คือตำนานตัวจริง ไม่ติงนัง.
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Lenovo