สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน มาตรฐานของ Wi-Fi 6หรือ IEEE 802.11ax หรือ Wireless AX เราคงรู้จักและใช้งานมากันบ้างแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยี Wi-Fi 6 นั้นก็เรียกได้ว่าทำให้การใช้งานเครือข่ายไร้สายนั้นมีความเร็วเข้าขั้นระดับ Gigabit กันได้แล้ว แน่นอนว่าเทคโนโลยีนั้นมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้โลกจะอยู่ในสถานะการณ์โควิดก็ตาม ที่ Wi-Fi 6 ได้มีการ อัพเกรด หรือ Enhanced เป็น Wi-Fi 6E เพิ่มเติมความสามารถ ที่จะทำให้การใช้งานนั้นลดข้อจำกัดเดิมๆ เพื่อการใช้งานเครือข่ายไรสายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานยุคที่คอนเทนต์และการใช้งานขนาดใหญ่ หรือ การสตรีมมิ่งระดับ 4K-8K ได้อย่างราบลื่น
รูปภาพจาก intel.com
ถ้าผมจำไม่ผิดมาตรฐานของ Wireless Lan นั้นมันเริ่มจะมีตอนสมัยผมเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งในสมัยนั้นถ้าผมจำไม่ผิดคือประสิทธิภาพมันต่ำตมมาก แถมทั้งเสถียรภาพนี่ไม่ค่อยคุ้มกับเงินที่จ่ายไปนัก เอาเป็นว่าก็เคยเสียเงินซื้อมาลอง ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เรียนอะไรเกี่ยวกับภาควิชาคอมพิวเตอร์ แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความพยายามของทาง Intel ที่มีการพัฒนาของเทคโนโลยีเครือข่ายไรสายมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Wi-Fi 6E ดูจากชื่อที่เหมือนจะพัฒนาต่อยอดจากเดิมด้วยการใช้สัญญาณความถี่ 6Ghz โดยยังคงใช้แบนด์วิธ ที่ 160 Mhz เหมือน Wi-Fi 6 โดยส่วนตัวผมมองว่า ถ้าคุณอัพเกรดระบบเครือข่ายไร้สายที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6E ก่อนใครในระแวกบ้าน คุณจะไม่โดนใครมารบกวนช่องสัญญาณได้อย่างแน่นอน เพื่อประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายไร้สายที่ดีที่สุด
รูปภาพจาก wi-fi.org
ในการใช้งานของย่านความถี่ 6 Ghz ที่ในภาพจะเปรียบเทียบได้กับวงสีเขียว ที่ช่วยเพิ่มให้มีแบนด์วิธในการรับส่งสัญญาณได้มากกว่า ย่าน 5 Ghz ในวงสีเหลือง และ 2.4 Ghz ในวงสีแดง นอกจากนั้นทางด้านความทะลุลวงของสัญญาณที่ ย่านความถี่ 6 Ghz ตอบโจทย์บ้านขนาดใหญ่ บ้านที่มีกำแพงหนา ห้องใต้ดิน หรือ ในบริเวณพื้นที่กว้าง ย่านความถี่ 6 Ghz ช่วยเพิ่มความทะลุทะลวง และ ความครอบคลุมได้ดีมากกว่า 5 Ghz
รูปภาพจาก wi-fi.org
Wi-Fi 6E ด้วยการใช้สัญญาณความถี่ 6 Ghz ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ throughput การรับส่งข้อมูลได้สูงมากขึ้น ,การหน่วงเวลาที่ต่ำลง ,การรองรับลูกข่ายไร้สายให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้มากขึ้น และ แบนด์วิธที่สูงมากขึ้น
รูปภาพจาก intel.com
ถ้าเปรียบเทียบแบนด์วิธในย่านความถี่ 6 Ghz ที่เหมือรกับถนนที่มีจำนวนและขนาดของถนนที่มากกว่า ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับย่านความถี่ 5 Ghz เราจะเห็นได้อย่างขัดเจนว่า 6 Ghz เหมือนขึ้นทางด่วนที่รถสามมรถวิ่งกันได้ความเร็วสูงมากขึ้นนั้นเอง
รูปภาพจาก wi-fi.org
Wi-Fi 6E ด้วยการใช้สัญญาณความถี่ 6 Ghz แบนด์วิธ 160 Mhz ถ้าเปรียบเทียบกับ Wi-Fi 6 ด้วยการใช้สัญญาณความถี่ 5 Ghz ถึงแม้แบนด์วิธ 160 Mhz ก็จริง แต่มันคือ 80+80 Mhz ถึงขนาดถนนจะเท่ากัน แต่ความสะดวกของการไหลเวียนที่แตกต่างกัน
รูปภาพจาก intel.com
Wi-Fi 6E ด้วยการใช้สัญญาณความถี่ 6 Ghz ที่ทำให้การทำงานภายในสำนักงานยุคใหม่นั้นข้อจำกัดของประสิทธิภาพที่มีความหน่วงนั้นจะหายไป ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้งานเครือข่ายได้สูงขึ้น แม้กระทั่งโรงงานที่ใช้เครือจักรที่ควบคุมด้วยการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายนั้นสามารถสั่งการได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
รูปภาพจาก intel.com
Wi-Fi 6E ด้วยการใช้สัญญาณความถี่ 6 Ghz การใช้งานภายในบ้านทางด้านของสิ่งกีดขวางต่างๆนั้นจะเป็นข้อจำกัดที่เล็กลง รวมไปถึงบ้านขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว้างขวาง การใช้งาน Wi-Fi 6E ด้วยการใช้สัญญาณความถี่ 6 Ghz ช่วยทำให้การเล่นอินเตอร์เน็ตจากการเชื่อมต่อไร้สาย ความเร็วระดับกิกะบิตนั้นมีความเป็นจริงได้มากขึ้น
รูปภาพจาก wi-fi.org
มาตรฐานความปลอดภัยการเข้ารหัส WPA3 ที่ Wi-Fi 6E นั้นสามารถทำงานร่วมกับเครือข่าย Wi-Fi 6 รวมไปถึงการใช้งานร่วมกับเครือข่าย Wi-Fi 5 ได้อย่างราบลื่น
รูปภาพจาก intel.com
สายเกมมิ่งที่ intel ก็ได้ออกมากับ KiLLER AX1675 ที่เป็นมาตรฐาน Wi-Fi 6E ที่จะมี Software เพื่อชาวคอร์เกม ทำให้การเล่นเกมนั้นลดข้อจำกัด เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงมากขึ้น
สำหรับมาตรฐาน Wi-Fi 6E นั้นยังไม่ออกมารับรองอย่างเป็นทางการ ทางด้านของคอมพิวเตอร์ที่จะมี Intel AX210 ,KiLLER 1675 ทางด้านของสมาร์ทโฟน Samsung S21 Ultra แต่ Router โดยส่วนตัวผมยังไม่เคยได้จับซักตัว แต่บางตัวที่มีขายในตลาดโลกนั้นชิพเซ็ตก็รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6E กันแล้ว แต่ใช้การเลี่ยงบาลีด้วยสัญญาณย่านความถี่ 5.8 Ghz ก็ไม่รู้ว่าช่วงของโควิดนั้นทำให้การรองรับใช้งานคลื่นความถี่ 6 Ghz ยังไม่ถูกรองรับในการใช้งาน จนกลายเป็นมาตรฐานระดับโลก ทั้งๆที่ผู้ผลิต ผู้พัฒนาอุปกรณ์เครือข่ายได้ใช้คำว่า "Wi-Fi 6 Enhanced" หรือ "5.8 Ghz" เดาว่าถ้ามาตรฐานนี้มาจริงๆ แค่อัพเกรด Firmware ก็ใช้งาน Wi-Fi 6E ได้อย่างเต็มรูปแบบ
Conclusion
วันนี้ก็คงจะเป็นการพูดถึง หรือ การบอกเล่ากับมาตรฐานเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายล่าสุดกับ Wi-Fi 6E ที่เป็นการอัพเกรดลดข้อจำกัด และ เพิ่มประสิทธิภาพให้มีความเหนือชั้นมากขึ้น ถ้าเทียบกับ Wi-Fi 6 ซึ่งคราวหน้านั้นผมก็จะลองอัพเกรดเกมมิ่งโน้ตบุ๊คเก่าๆ ให้มีการรองรับการใช้งานเทคโนโลยี Wi-Fi 6E หวังว่าโควิดมันจะหมดไปจากโลกของเราในเร็ววันนี้ และ หวังว่าเราเตอร์ที่เป็นมาตรฐาน Wi-Fi 6E จะออกมาสู่ตลาดกันอย่างชัดเจน ไม่ใช่แอบๆแบบทุกวันนี้ ด้วยการใช้ "Wi-Fi 6 Enhanced" หรือ "5.8 Ghz" สำหรับวันนี้ก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ