สิ่งหนึ่งที่ Controller แบบ Joystick ของพวกเครื่อง Console นั้นมีเหนือกว่า Keyboard ของฝั่ง PC เลยก็คือความสามารถของปุ่ม Analog ที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถใช้น้ำหนักในการกด และควบคุมการเล่นเกมได้อย่างละเอียดมากกว่า
ยกตัวอย่างเช่นเกมขับรถ ถ้าเราใช้ Keyboard ทั่วๆไปเล่น การกดคันเร่งหรือเลี้ยวมันก็จะมีอยู่แค่สองระดับ ก็คือสุด หรือ ปล่อยเท่านั้น แต่ถ้าเราใช้ Controller แบบ Joystick ของเครื่อง Console เล่น เราก็จะสามารถกะน้ำหนักได้ว่าจะให้คันเร่งนั้น กดมากหรือน้อย การเลี้ยวนั้น หักมากหรือน้อย .. สิ่งนี้แหละครับ ที่เรียกกันว่า Analog และเครื่อง Console ก็มีใน Controller หลักมาเป็นระยะเวลากว่าสิบปีแล้ว .. ส่วนฝั่ง PC ส่วนใหญ่ยังคงใช้ Keyboard ที่มีระยะการกดระดับเดียวอยู่
RAZER ที่เป็นแบรนด์ Gaming Gear ชื่อดังอยู่แล้วก็เห็นโอกาสตรงนี้ในการทำตลาด โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัว RAZER Tartarus Pro ที่เป็น Key Pad หรือพูดง่ายๆว่ามันก็เหมือน Keyboard ที่ตัดปุ่มส่วนใหญ่ออกไปเหลือแค่ปุ่มที่จำเป็นสำหรับการเล่นเกมเท่านั้น ซึ่งรุ่นนี้ก็จะเป็นรุ่นเรือธงของแบรนด์
ฟีเจอร์ที่เด่นๆเลยก็คือปุ่มนั้นจะเป็น Analog เหมือนกับพวก Controller ของเครื่อง Console แต่มาในรูปแบบปุ่ม Keyboard เหมือนกับเครื่อง PC เพราะเช่นนั้นใครที่ต้องการอยู่ตรงกลางของทั้งสองก็น่าจะชอบมันเป็นอย่างดี .. ที่ทำแบบนี้ได้เพราะว่า RAZER นั้นได้มีการนำ Optical Switch มาใช้งาน ทำให้ผู้เล่นสามารถกดตัวปุ่มได้หลายระดับ โดยระยะการกดนั้นเลือกได้ตั้งแต่ 1.5mm ไปจนถึง 3.6mm
อีกฟีเจอร์นึงเลยก็คือการกดสองระดับ ซึ่งผู้ใช้นั้นจะสามารถใช้ปุ่มเดียวเป็นการเรียกสองฟังก์ชั่นได้ .. เช่น กดลงไปที่ระยะนึง จะเท่ากับกดปุ่มนึง หรือ กดลงไปอีกระยะนึงจะเท่ากับกดอีกปุ่มนึง .. ตรงนี้ก็เอาไว้แก้ปัญหาสำหรับเกมที่ไม่ซัพพอร์ตการใช้ Analog โดยผู้เล่นอาจจะทำการ Assign ปุ่มประมาณว่า กดครึ่งนึง เป็นการเดินหรือย่องช้าๆ แต่ถ้ากดลงไปเต็มๆนั้นเป็นการวิ่ง ก็ได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนั้นแล้วภายนอกยังคงมี D-Pad แบบ 8-Ways ที่เอาไว้เป็นคันโยก Navigation เหมือนของจอย Controller หรือจะ Assign เป็นค่าต่างๆก็ทำได้อย่างอิสระ
ตอนนี้ Tartarus Pro ก็วางขายแล้วด้วยราคา $129.99 หรือราวๆ 4,000 บาท .. ซึ่งก็ถือว่าราคาสูง เมื่อเทียบกับ Keyboard แบบ Full-Size .. แต่อย่าลืมครับ อันนี้มันเปรียบเสมือน Gaming Gear อย่างเต็มรูปแบบ และสามารถทำหลายอย่างที่ Gaming Keyboard ทั่วไปนั้นทำไม่ได้ เพราะเช่นนั้นก็ลองชั่งน้ำหนักดูกันเองแล้วกันครับ ว่าคุ้มหรือเปล่า