โฉมหน้าของฮาร์ดดิสก์ซีเกทในยุคนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างมาก ก่อนหน้านี้เราคงคุ้นเคยกับรุ่น Barracuda 7200.10 ในขนาด 3.5 นิ้ว หรือ Seagate Momentus ในขนาด 2.5 นิ้ว ซึ่งบทความนี้ ทีมงานโอเวอร์คล็อกโซนจะอธิบายให้คุณเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า ฮาร์ดดิสก์ของซีเกทในกลุ่มคอนซูมเมอร์นั้นแบ่งกลุ่มการใช้งานอย่างไร และควรจะเลือกซื้อแบบไหนให้เหมาะสมกับการใช้งาน
1. Seagate Barracuda
ในเซกเมนต์นี้ทางซีเกทพัฒนาฮาร์ดดิสก์ให้เหมาะต่อการใช้งานทั่วไปอย่างเช่น หน่วยเก็บข้อมูลในเครื่องพีซี เซิร์ฟเวอร์ประจำบ้าน ฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลภายนอก ซึ่งในงานร่วมกับเครื่องพีซีและแล็ปทอป แต่มีการแยกย่อยออกเป็น 2 รุ่นได้แก่ Barracuda และ Barracuda Pro โดยในรุ่นหลังนี้ออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกระดับเพื่อพีซีกลุ่มเกมมิ่ง แต่ก็สามารถใช้งานได้ครอบคลุมเช่นเดียวกับฮาร์ดดิสก์ Barracuda
ฮาร์ดดิสก์ตระกูล Barracuda มีทั้งขนาด 2.5 นิ้ว และ 3.5 นิ้ว โดยในรุ่น Barracuda จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Multi-Tier Caching Multi-Tier Caching ที่เสริมประสิทธิภาพในการโหลดแอพพลิเคชันและไฟล์ได้เร็วขึ้น ด้วยการใช้ชั้น NAND Flash, DRAM และ Media Cache ได้อย่างชาญฉลาด มีความจุสูงสุด 8TB สำหรับขนาด 3.5 นิ้ว และ 5TB ในขนาด 2.5 นิ้ว
ส่วนฮาร์ดดิสก์ Barracuda Pro จะมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นไปอีกระดับ โดยในโมเดล 3.5 นิ้ว ทุกรุ่นจะติดตั้งแคชขนาด 256MB มีความจุสูงสุด 14TB ให้ความเร็วในการโอนถ่ายสูงสูงสุด 250MB/s บนอินเทอร์เฟซ SATA 6Gb/s เหมาะสำหรับใช้งานในระบบเก็บข้อมูลของทีมงานออกแบบระดับมืออาชีพ โฮมเซิร์ฟเวอร์ เครื่องพีซีประสิทธิภาพสูง
2.Seagate FireCuda
ฮาร์ดดิสก์โมเดลนี้จะไม่ได้มาพร้อมกับความจุสูง แต่มีการผสานเทคโนโลยี SSD เข้าไปด้วย สิ่งที่ได้กลับมาคือ ความเร็วในการบูตเข้าระบบปฏิบัติการและแอพพลิเคชันที่ใช้ง่ายบ่อยครั้งเร็วมากขึ้น ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการอัพเกรดของเกมเมอร์ งานออกแบบต่างๆ และเครื่องพีซีที่ต้องการประสิทธิภาพ โดยในแง่ของการโหลดเกมนั้นทำได้เร็วกว่าฮาร์ดดิสก์ความเร็ว 7200 รอบต่อนาทีทั่วไปได้ถึง 5 เท่า ใช้เวลาในการเข้าถึงข้อมูลน้อยกว่า 9.5 มิลลิวินาที และอ่านเขียนต่อเนื่องสูงสุด 210MB/s มีความจุในเลือกใช้ 1 และ 2TB สำหรับขนาด 3.5 นิ้ว และมีรุ่น 500GB ในขนาด 2.5 นิ้วด้วย
3.Seagate Ironwolf
ฮาร์ดดิสก์ตระกูลนี้พัฒนามาเพื่อให้งานกับ NAS ทุกรูปแบบ ทำงานได้ต่อเนื่องแบบ 24/7 รองรับการขยายและทำงานร่วมกันในสภาพแวดล้อมแบบ Multi-Drive โดยมีการออพติไมส์เข้ากับเทคโนโลยี AgileArrayซึ่งช่วยปรับสมดุลทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพในระบบ RAID เมื่อทำงานแบบ Multi-bay นอกจากนั้นทางซีเกทยังมีการติดตั้งเซนเซอร์ RV เพื่อคงสภาพสมรรถนะการทำงานเมื่ออยู่ในระบบของ NAS เพิ่มความมั่นคงให้ในดาวน์โหลดและอัพโหลดจากผู้ใช้งานหลายๆ คนพร้อมกันกลุ่มเป้าหมายมีทั้งธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง เซิร์ฟเวอร์สตอเรจ หรือแม้กระทั่งคลาวด์ส่วนตัว
ขณะที่ฮาร์ดดิสก์ Ironwolf Pro นั้นยังคงคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมเอาไว้สำหรับทำงานร่วมกับ NAS แต่ยกระดับความน่าเชื่อถือในการทำงานขึ้นมา เห็นได้จากการที่มันรองรับเวิร์กโหลดได้สูงถึง 300 TB/year ขณะที่ฮาร์ดดิสก์ Ironwolf จะมีค่าดังกล่าวอยู่ที่ 180 TB/year
4.Seagate Skyhawk
นี่คือฮาร์ดดิสก์ที่พัฒนามาเพื่อทำงานร่วมกับเครื่องบันทึกวิดีโอทั้งแบบ NVR, DVR, CCTV หรือระบบกล้องวงจรปิดแบบไฮบริด สามารถรองรับการทำงานร่วมกับกล้องระดับ HD ได้มากถึง 64 ตัว รองรับเวิร์กโหลดข้อมูล 180TB/Year หรือเขียนได้ทับได้ 180 ครั้งถ้าฮาร์ดดิสก์มีความจุ 1TB นอกจากนั้นยังพร้อมใช้งานในระบบ NVR (Network video recorders) ส่งผลให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะอยู่ในระบบ multi-bay ซึ่งจะง่ายต่อการที่เจ้าของระบบจะปรับขนาดหรือเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล
สรุป
Seagate Barracuda ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ทั่วไป ทำงานกับเซิร์ฟเวอร์ประจำบ้านหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอก
Seagate FireCuda ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง พีซีเกมมิ่ง เวิร์กสเตชันด้านการออกแบบหรือการตัดต่อ
Seagate IronWolf ใช้งานกับ NAS เซิร์ฟเวอร์สตอเรจ หรือคลาวด์ส่วนตัว
Seagate Skyhawk ใช้งานกับระบบกล้องวงจรปิดทั้งแบบ NVR, DVR, CCTV หรือไฮบริด