แม้ว่าผมจะรู้สึกว่า Intel Core ใน Generation ที่ 13 หรือ Raptor Lake-S นั้นเพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันก็เข้าสู่ช่วงกลางค่อนปลายรุ่นแล้วนะครับ เพราะมันเปิดตัวมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2022 นู่นเลย .. จะว่าไปแล้ว ช่วงไม่กี่ปีหลังนี่เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ
และล่าสุดนี้ผมก็ได้เห็นผลการทดสอบของ Processor รุ่นถัดไป Intel Gen 14 หรือ Arrow Lake-S โผล่เข้ามาแล้ว .. โดยครั้งนี้ผู้นำเสนอคือเว็บไซต์ Igor's Lab ซึ่งได้นำบทวิเคราะห์และผล Benchmark จากทาง Chipzilla ออกมาสรุปให้ดูกัน
เริ่มที่ในเรื่องรายละเอียดด้านประสิทธิภาพก่อน อันนี้จะมีรุ่นที่ตัวเลขของจำนวน Core และ Thread นั้นก็จะเหมือนกับ Lineup รุ่นเดิมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น 8+16 ทำให้มี 24-Core / 32-Thread เหมือนกับเรือธงรุ่นปัจจุบัน (Core i9-13900K) ซึ่งคาดว่าตัวเลขตรงนี้จะอยู่ในรุ่นที่มาแทนที่อย่าง i9-14900K (Raptor Lake Refresh) .. แต่สำหรับรุ่นที่เป็น Arrow Lake-S นั้นอาจจะออกมาเป็นรุ่นที่บนกว่าไปอีกขั้น เพราะว่าข่าวลือออกมาว่ามันจะมี Core Configuration แบบ 8+32 นู่นเลย
จากกราฟที่เห็นตรงนี้ คือเมื่อ CPU ทุกตัวถูกตั้งค่า Power Profile ไปที่ PL2 สูงสุด ตัว Raptor Lake-S และรุ่น Refresh นั้นจะได้ตัวเลขออกมาที่ 253W ส่วนรุ่น Arrow-Lake จะอยู่ที่ 250W .. ส่วนด้านประสิทธิภาพก็ตามที่เห็นในกราฟครับ
ตรงนี้ก็แสดงให้เห็นว่ารุ่นที่เป็น Raptor Lake-S ก็จะได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาจาก Core i9-13900K ประมาณไม่ถึง 5% ซึ่งคาดว่าอันนี้มาจากค่า Clock ที่สูงขึ้นมาเป็น 6.0-6.2GHz ไม่ได้มาจากโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมอะไรแต่อย่างใด ในขณะที่ Intel Arrow Lake-S ใหม่นั้นทำได้ดีกว่าเดิมถึง 21% เลยทีเดียว
ใน Benchmark ทุกอันยกเว้น SPECrate ที่เป็น Single Core เราก็จะเห็นได้ว่า Arrow Lake-S นั้นทำประสิทธิภาพได้ดีกว่ากันแบบหลักสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปตลอด แต่ต้องอย่าลืมด้วยว่าอันนี้เป็นตัวเลข Benchmark ในช่วงแรก อาจจะยังไม่เสถียร และตัว CPU นั้นยังไม่มีค่า Clock แบบ Final แต่อย่างใด เพราะกว่า Arrow Lake จะเปิดตัวออกมาจริงๆนั้น ก็ยังอีกนานเลยครับ เพราะต้องผ่าน Raptor Lake Refresh ไปก่อน กว่าตอนนั้นคงจะมีการ Optimize ของ Firmware ที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบันแล้วก็เป็นไปได้
นั่นหมายความว่าฝั่งคู่แข่งอย่าง AMD เองก็น่าจะต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพของ Processor ให้ใกล้เคียงนี้เช่นเดียวกัน มิเช่นนั้นก็จะหาตำแหน่งยืนในตลาดได้ยากซักหน่อย อันนี้หมายถึง Processor Ryzen รหัส 8000 นะครับ
แต่การ Benchmark ตรงนี้ก็ไม่ได้จบแค่ CPU Benchmark เพียงอย่างเดียว เพราะยุคนี้ตัว Processor นั้นไม่ใช่แค่ CPU อย่างเดียวแล้ว แต่มี GPU หรือ Graphic Processing Unit เข้ามาร่วมด้วย .. โดย Arrow Lake-S นี้ก็ทำประสิทธิภาพที่พัฒนาขึ้นมาได้อย่างก้าวกระโดดเช่นกันครับ อย่างที่เห็นเลยก็คือมันเพิ่มขึ้นถึง 2x อันเป็นสาเหตุมาจากสถาปัตยกรรม GPU อันใหม่ Alchemist ที่ถูกนำเข้ามาใช้ในหน่วยประมวลผลตัวนี้ด้วย .. ตัวเลขตรงนี้สำหรับคนที่ใช้คอม Gaming หรือทำงานใส่ Graphic Card แยกอยู่แล้วอาจจะไม่ได้คิดอะไรมาก แต่สำหรับคอมที่ไม่ได้เน้นการ์ดจอ เช่นพวก Mini PC หรือ Notebook ทั้งหลายนี่แหละครับ อันนี้เป็นการพัฒนาครั้งใหญ่เลย เพราะถ้าไม่ต้องใช้การ์ดจอ และ หน่วยประมวลผลกราฟฟิค ในตัว CPU นั้นทำงานได้ดี ก็แปลว่าจะลดการบริโภคพลังงาน และ ลดการปล่อยความร้อนออกมาได้ เพราะไม่ต้องพึ่งการ์ดจอนั่นเองครับ
สำหรับการใช้งานคู่ Mainboard นั้น รุ่นที่เป็น Raptor Lake Refresh จะสามารถใช้งานคู่กับ Mainboard ที่เป็นของ Raptor Lake อย่าง LGA1700 ทั้งชิป Intel 600 และ Intel 700 ได้ด้วย ซึ่งอันนี้คาดว่าจะเปิดตัวมาในช่วงเดือนตุลาคม 2023 นี้ หนึ่งปีพอดีหลังจากที่ Raptor Lake เปิดตัว .. ส่วนรุ่นที่เป็น Arrow Lake มีความเป็นไปได้ว่าจะมาในช่วงปี 2024 นู่นเลย และ Socket จะเปลี่ยนใหม่เป็น LGA1851 คู่กับ Mainboard 800-Series ด้วย ซึ่งทาง Intel จะมีการจัดงาน Innovation Event ในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ข้อมูลก็น่าจะออกมาในตอนนั้นแหละครับ
ข้อมูล : Wccftech