สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน หลังจากก้าวเดินชีวิตในปี 2020 มาครึ่งปีแล้ว สถานการณ์ของไวรัส COVID-19 เรียกได้ว่าเกือบกลับสู่สภาวะปกติในบ้านเรา ที่เราคงต้องดำเนินชีวิตกันแบบ New Normal ชีวิตต้องก้าวเดินต่อไปเรามามองกันที่ทางด้านเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายกันดีกว่า ช่วงที่ผ่านมานั้นเราคงจะพอเริ่มเห็น Wi-Fi 6 Router หรือ Wireless AX Router ที่มีราคาจับต้องได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งเริ่มต้นกันไม่ถึงสองพันก็พอจะหาซื้อได้ทั้งแบรนด์ที่ทำตลาดในบ้านเราอย่างเป็นทางการ หรือ ของหิ้วจากต่างประเทศ หลายๆคนก็อาจจะมองว่าการอัพเกรด Wi-Fi 6 มันเป็นเรื่องเกินความจำเป็น ถ้าไม่มีอุปกรณ์ที่รองรับ Wi-Fi 6 ใช้งานในบ้าน ทางด้านของเทคโนโลยี Wireless AX (Wi-Fi 6) มาเทียบกับ Wireless AC (Wi-Fi 5) มันมีความแตกต่างกันพอสมควรในแง่ประสิทธิภาพและการใช้งาน ซึ่งเดี๋ยวถ้ามีเวลาว่างจะมารวบรวมข้อมูลและเหลาให้อ่านกันครับ วันนี้ผมก็จะมาทดสอบให้ดูกัน อัพเกรด Wi-Fi 6 Router เพื่ออะไร
สำหรับการทดสอบในวันนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ ด้วยการทดสอบความเร็วของอินเตอร์เน็ตระหว่างการใช้ Wireless AC Router (ASUS RT-AC87U) และ Wireless AX Router (Mi AX3600) ตัว Wireless Router วางไว้ชั้น 2 หน้าห้องนอนห้องหลังของบ้าน โดยการทดสอบผ่านลูกข่ายเป็นสมาร์ทโฟน เพราะมันสะดวกง่ายต่อการทดสอบ จะให้แบก Notebook และ Desktop ก็คงจะไม่สะดวกเท่าไรครับ
โดยลูกข่ายจะมีดังนี้
1. iPhone SE (2020 - Wi-Fi 6)
2. iPhone 6s (2015 - Wi-Fi 5)
3. Mi8se (2018 - Wi-Fi 5)
4. Mi5x (2017 - Wi-Fi 5)
5. Mi4c (2015 - Wi-Fi 5)
แพ็คเกจอินเตอร์เน็ตที่ใช้เป็น 3BB 1Gbps / 100 Mbps โดย Router เดิมของ ISP ผมได้ทำการปรับให้เป็น Bridge Mode แล้วให้ Wireless Router ที่อัพเกรดเป็นตัวสั่งเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเอง เท่ากับว่า Router เดิมของ ISP นั้นเป็นเพียงแค่ Internet Gateway เท่านั้น โดยผมใช้สายแลน Cat6a ของแบรนด์ R&M ในการเชื่อมต่อระหว่างกัน
การทดสอบที่ 1 ทดสอบข้าง Router
การทดสอบที่ 1 ด้วยการใช้ Wireless AC Router ที่ในจุดนี้คงอย่าไปเอาอะไรกับมันมาก เพราะมันยังไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพของ Wireless Router เลยครับ ถ้าเรามองกันดีๆ Mi4c ทางด้านประสิทธิภาพที่บ้าพลังมาก ทำออกมาน้องๆ iPhone SE 2020 เลยด้วยซ้ำ
1. iPhone SE (584/260 Mbps)
2. iPhone 6s (255/144 Mbps)
3. Mi8se (388/112 Mbps)
4. Mi5x (226/80.9 Mbps)
5. Mi4c (505/112 Mbps)
การทดสอบที่ 1 ด้วยการใช้ Wireless AX Router ในแง่ของประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้ดีขึ้น ถ้าเรามองกันดีๆ Mi4c ยังคงบ้าพลังอยู่ แรงติดชิดใกล้ iPhone SE 2020 มาก เรียกได้ว่าตัวทดสอบอื่นๆชิดซ้ายไป
1. iPhone SE (656/165 Mbps)
2. iPhone 6s (341/147 Mbps)
3. Mi8se (429/112 Mbps)
4. Mi5x (240/83.2 Mbps)
5. Mi4c (634/115 Mbps)
การทดสอบที่ 2 ทดสอบในห้องนอนส่วนหน้าของบ้าน
การทดสอบที่ 2 ด้วยการใช้ Wireless AC Router ทดสอบกันให้ดูบนเตียงนอนจริงๆ ที่ในการสอบเราไม่ได้หันหลังเครื่องทิศทางสู่ Router ประสิทธิภาพ Mi4c ที่บ้าพลังกันดี ทำออกมาค่าดาวน์โหลดแรงกว่า iPhone SE 2020 เสียอีกครับ
1. iPhone SE (441/152 Mbps)
2. iPhone 6s (255/123 Mbps)
3. Mi8se (312/118 Mbps)
4. Mi5x (178/86 Mbps)
5. Mi4c (446/120 Mbps)
การทดสอบที่ 2 ด้วยการใช้ Wireless AX Router ผลการทดสอบที่เป็นไปตามคาดคือสามารถให้ประสิทธิภาพในการสอบที่สูงกว่า Wireless AC Router พอสมควร ประสิทธิภาพ Mi4c ที่ยังทำออกมาเหนือที่สุดในกลุ่มลูกข่าย Wi-Fi 5 แต่เริ่มจะด้อยกว่า iPhone SE 2020 ที่เป็น Wi-Fi 6 แล้ว
1. iPhone SE (634/165 Mbps)
2. iPhone 6s (325/143 Mbps)
3. Mi8se (421/112 Mbps)
4. Mi5x (238/94.1 Mbps)
5. Mi4c (533/112 Mbps)
การทดสอบที่ 3 ทดสอบบนโต๊ะทำงานชั้นล่าง ที่อยู่ใต้ Router
การทดสอบที่ 3 ด้วยการใช้ Wireless AC Router บริเวณโต๊ะทำงานชั้นล่าง ถ้าแหงนคอไปช่วงองศาที่ประมาณ 100-110 องศา สายตาจะได้ระนาบเดียวกับ Wireless Router ครับ โดยทางด้านประสิทธิภาพที่ iPhone SE นี่เริ่มทิ้งห่างออกไป แสดงถึงชั้นเชิงที่เหนือกว่าของลูกข่าย Wi-Fi 6 แต่ Mi4c ที่บอดี้เป็นพลาสติก ถ้าให้พูดให้เพราะมันก็คือโพลีคาบอนเนต ที่ความแรงยังคงทรงๆมากันตามติดๆ ในแง่ราคาที่ผมซื้อมาก ทางด้านประสิทธิภาพเครือข่ายไร้สาย Mi4c มันถือว่าคุ้มมาก
1. iPhone SE (452/174 Mbps)
2. iPhone 6s (200/135 Mbps)
3. Mi8se (168/117 Mbps)
4. Mi5x (183/93.3 Mbps)
5. Mi4c (383/123 Mbps)
การทดสอบที่ 3 ด้วยการใช้ Wireless AX Router บริเวณโต๊ะทำงานชั้นล่าง ถ้ามองกันที่ประสิทธิภาพโดยภาพรวมแล้วพอเปลี่ยนมาใช้ Wireless AX นั้นทำให้ความเร็วในการทดสอบนั้นออกมาสูงมากขึ้น ที่การทดสอบนี้เราเริ่มจะเห็นประสิทธิภาพที่เหนือว่าของการใช้ Wi-Fi 6 Router คู่กับ Wi-Fi 6 Device จาก iPhone SE แล้ว แต่ที่ยังคงมาแรงแซงทุกตัวที่เป็น Wi-Fi 5 ก็คือ Mi4c เนี่ยแหละครับ ยังคงทรงยังคงดีมากในกลุ่มลูกข่าย Wireless AC
1. iPhone SE (639/142 Mbps)
2. iPhone 6s (338/149 Mbps)
3. Mi8se (421/111 Mbps)
4. Mi5x (242/81.9 Mbps)
5. Mi4c (577/113 Mbps)
การทดสอบที่ 4 ทดสอบห้องนั่งเล่น ที่อยู่ถัดจากมุมโต๊ะทำงาน
การทดสอบที่ 4 ด้วยการใช้ Wireless AC Router บริเวณห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก บริเวณส่วนหน้าของตัวบ้าน ที่ผมวางเครื่องเสียงเอาไว้ด้วย โดยจะมีการวางอคูสติกบอร์ดเพิ่มอุปสรรค์ในการยิงสัญญาณระหว่างลูกข่ายและแม่ข่าย ตอนนี้ทางด้านประสิทธิภาพในการทดสอบที่ iPhone SE นั้นเริ่มแสดงความเหนือกว่าทุกตัวในกลุ่มการทดสอบของผม เดี๋ยวเรามาลองดูกันว่าหลังจากเปลี่ยนไปใช้ Wireless AX นั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีขึ้นอีกเท่าไร
1. iPhone SE (533/145 Mbps)
2. iPhone 6s (192/117 Mbps)
3. Mi8se (148/119 Mbps)
4. Mi5x (155/81 Mbps)
5. Mi4c (261/119 Mbps)
การทดสอบที่ 4 ด้วยการใช้ Wireless AX Router บริเวณห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก บริเวณส่วนหน้าของตัวบ้าน ในการทดสอบที่เราจะเห็นได้ว่า iPhone SE นั้นทำประสิทธิภาพได้ดีที่สุด แต่ถึงจะเป็น Wi-Fi 6 Router ลูกข่ายเป็น Wi-Fi 5 ในการทดสอบนี้เราจะเห็นได้ชัดเจนกับ Mi8se และ Mi4c ที่ความเร็วในการดาวน์โหลดได้ออกมาได้ดีกว่าเดิมเป็นเท่าตัวกันเลย
1. iPhone SE (624/139 Mbps)
2. iPhone 6s (334/142 Mbps)
3. Mi8se (338/115 Mbps)
4. Mi5x (213/82.3 Mbps)
5. Mi4c (580/126 Mbps)
การทดสอบที่ 5 ทดสอบบริเวณหน้าบ้าน พื้นที่จอดรถ
การทดสอบที่ 5 ด้วยการใช้ Wireless AC Router บริเวณพื้นที่จอดรถนอกตัวบ้านที่มีหลังคากันฝน จะเรียกว่าโรงจอดรถก็อาจดูโอเวอร์เกินไปนัก แต่นอกจากจอดรถมันยังเป็นพื้นที่ในการทำงานอดิเริกในการปรับแต่งและซ่อมแซมรถในเวลาว่าง ที่สำคัญเอาไว้นั่งกินหมูกระทะกับเพื่อนๆ ปัญหาในจุดนี้คือเล่นอินเตอร์เน็ตได้ช้ามากในช่วงการใช้ Wireless AC Wave 1 ทดสอบความเร็วได้หลักหน่วยเท่านั้น พอมาเปลี่ยนเป็น Wireless AC Wave 2 ก็ดีขึ้นเห็นหลักสิบกัน แต่พอมาใช้ลูกข่าย Wi-Fi 6 อย่าง iPhone SE ที่ความเร็วแตะหลักร้อยครับ ปัญหาการใช้งานจุดนี้ทำให้ผมตัดสินใจลองเปลี่ยนมาใช้ Wireless AX ซื้อตั้งแต่มีขายในบ้านเราใหม่ๆ ตอนกดสั่งซื้อ Wireless Router ตัวละหมื่นกว่าบาท ยังคิดอยู่ในใจจะซื้อมาเพื่ออะไร เดี๋ยวเราลองมาดูกันว่าพอเปลี่ยนไปใช้ Wireless AX Router แล้วมันจะดีขึ้นเพียงใด
1. iPhone SE (102/52.5 Mbps)
2. iPhone 6s (61.3/20.2 Mbps)
3. Mi8se (68.8/30.4 Mbps)
4. Mi5x (61.1/39.6 Mbps)
5. Mi4c (48.5/4.54 Mbps)
การทดสอบที่ 5 ด้วยการใช้ Wireless AX Router บริเวณพื้นที่จอดรถนอกตัวบ้าน ซึ่งจากภาพรวมในการทดสอบที่ออกมานั้นความเร็วระดับหลัก 2XX-4XX ทำได้สบาย ใช้งานกันได้อย่างไหลลื่นไม่ต้องมาหงุดหงิดแต่อย่างไร ซึ่ง Mi4c ยังคงมีความแรงบ้าพลังจี้ iPhone SE แบบติดๆกันเลยครับ จุดนนี้เราคงจะเห็นกันอย่างชัดเจนว่า Wi-Fi 6 Router เมื่อใช้งานกับลูกข่ายที่เป็น Wi-Fi 5 ยังสามารถเห็นประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาได้
1. iPhone SE (422/139 Mbps)
2. iPhone 6s (224/93.3 Mbps)
3. Mi8se (401/134 Mbps)
4. Mi5x (204/78.4 Mbps)
5. Mi4c (422/131 Mbps)
การทดสอบที่ 6 ทดสอบบริเวณสวนหลังบ้าน
การทดสอบที่ 6 ด้วยการใช้ Wireless AC Router บริเวณพื้นที่ของสวนที่อยู่หลังบ้าน ซึ่งพื้นที่นี้บางทีผมก็ใช้นั่งเพื่อสงบสติอารมณ์ หรือ นั่งเล่นเกมจากสมาร์ทโฟนแบบชิวๆ ในการทดสอบที่ความเร็วจากลูกข่าย Wi-Fi 5 ที่ทำความเร็วได้ช่วง 6X-1XX Mbps ส่วน Mi4c ยังคงมาแรงไม่ยอมแพ้ใคร ในแง่ความเป็นจริงมันก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหาอะไรนัก แต่ถ้ามาเทียบกับลูกข่าย iPhone SE ที่เป็น Wi-Fi 6 สามารถทำความเร็วได้ระดับ 3XX Mbps กันเลยทีเดียว
1. iPhone SE (347/105 Mbps)
2. iPhone 6s (112/39 Mbps)
3. Mi8se (84.1/68.3 Mbps)
4. Mi5x (67.3/39 Mbps)
5. Mi4c (176/124 Mbps)
การทดสอบที่ 6 ด้วยการใช้ Wireless AX Router บริเวณพื้นที่ของสวนที่อยู่หลังบ้าน ที่เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนในแง่ของความแรง iPhone SE ที่เป็น Wi-Fi 6 ทำออกมาได้ที่ 6XX Mbps ส่วน Mi4c ที่เป็น Wi-Fi 5 ยังถือว่ามาแรงไม่ยอมแพ้ใคร ความเร็วระดับ 4XX Mbps ส่วนลูกข่ายที่ใช้ทดสอบอีกสามตัวสามารถทำประสิทธิภาพได้เหนือกว่าการใช้ Wireless AC เป็นเท่าตัว
1. iPhone SE (613/169 Mbps)
2. iPhone 6s (300/132 Mbps)
3. Mi8se (369/131 Mbps)
4. Mi5x (220/74.7 Mbps)
5. Mi4c (473/117 Mbps)
ข้อควรระวังกับการอัพเกรด Wi-Fi 6 Router เปลี่ยนใหม่ ยังไม่แรงไปเทียบชั้น Gigabit ได้
การเลือกซื้อหรืออัพเกรดมาใช้ Wi-Fi 6 Router ซักตัว ซึ่งในจุดที่ผู้ใช้งานควรต้องมาใส่ใจเพิ่มเติม เนื่องจาก Wi-Fi 6 มันยังคงเป็นเทคโนโลยีใหม่ ในการอัพเดต Firmware ที่มันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและปัญหาอื่นๆได้ รวมไปถึงการเซ็ตอัพการทำงานของระบบ Wireless Lan เค้นออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งมันก็ขึ้นกับ Wirless Router แต่ละรุ่นไป ในภาพเป็น iPhone SE 2020 ทดสอบจุดเดียวกับการทดสอบที่ 3 ด้วยการใช้ Wireless AX Router บริเวณโต๊ะทำงานชั้นล่างของบ้าน จากเดิมทดสอบความเร็วได้ที่ 639/142 Mbps ถ้าเพียงแค่อัพเดต Firmware อย่างเดียว ความเร็วจะขึ้นมาที่ 793/145Mbps พอมีการเซ็ตอัพเข้ามาช่วยร่วมด้วย ก็จะขึ้นมาที่ 834/144 Mbps จากการทดสอบจุดเดียวกัน
Conclusion
การอัพเกรด Wireless Router มาสู่มาตรฐาน Wirless AX หรือ Wi-Fi 6 ที่เราคงพอจะเห็นข้อดีในแง่ความสามารถในการทะลุ ทะลวง พร้อมกับการครอบคลุมของสัญญาณที่ทำได้ดีกว่า Wirless AC Router หรือ Wi-Fi 5 Router โดยไม่ต้องมาสนใจเทคโนโลยีของทั้งสองมาตรฐาน ถึงแม้เป็นการใช้ลูกข่าย Wirless AC หรือ Wi-Fi 5 จากการทดสอบเราก็พอมองเห็นกันแล้วได้ชัดเจน การใช้ Wirless AX Router หรือ Wi-Fi 6 Router ก็สามารถเสริมประสิทธิภาพความเร็วในการใช้งานงานอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ส่วนการใช้งานลูกข่ายลูกข่าย Wirless AX หรือ Wi-Fi 6 ร่วมกับ Wirless AC Router หรือ Wi-Fi 5 Router ประสิทธิภาพก็ยังทำได้ดีขึ้นอย่างพอเห็นได้บ้าง ซึ่งอาการมันก็คงเหมือนตบมือข้างเดียวไม่ดัง แต่การตบมือหนึ่งข้างจากการใช้ Wi-Fi 6 ในฝั่งแม่ข่าย หรือ ลูกข่าย มันก็ยังพอมีลมพัดผ่านให้รู้สึก ที่ให้เราเห็นการใช้งานที่ดีมากขึ้นนั้นเอง ซึ่งก็ลองตัดสนใจกันดูว่าจะอัพเกรด Wirless AX Router หรือ Wi-Fi 6 Router เพื่ออะไรกัน แต่ถ้าการใช้งานของ Wirless AC Router หรือ Wi-Fi 5 Router ที่ใช้งานได้ดี พอใจกับความไหลลื่นและไม่ติดขัดปัญหาการครอบคลุมของสัญญาณ ก็ไว้รอเปลี่ยนตอนมาตรฐาน Wi-Fi 6E ก็ไม่เสียหายแต่อย่างไร สำหรับวันนี้ก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ