สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน กับเรื่องราวของสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ Apple ที่เมื่อช่วงต้นปี ที่เราเริ่มได้เห็นข่าวหลุดของ iPhone SE 2020 หรือ 2nd Generation iPhone SE ที่เข้ามาทำตลาดแทน iPhone 8 ซึ่งก็จะเหมือนในกรณีของ iPhone SE ตัวแรก เครื่องเล็กสเป็คแรง ดีไซน์แบบ iPhone 5 เข้ามาทำตลาดแทน iPhone 5s นั้นเอง iPhone SE 2020 ในภาพรวมของการของการดีไซน์ ที่เป็นการนำ iPhone 8 หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว มาปรับปรุงใหม่ Apple ด้วยการใช้หัวใจหลัก Apple A13 Bionic แรงที่สุดในวงการสมาร์ทโฟนช่วงเวลานี้ ตัวเดียวกับใน iPhone 11 ทุกโมเดล แต่ iPhone SE 2020 จะถูกจำกัดให้ด้อยกว่า iPhone 11 ทุกโมเดล ในส่วน กล้อง ,แรม ,แบต ,หน้าจอแสดงผล และ อื่นๆ ซึ่ง 2nd Generation iPhone SE ราคาเปิดมาที่ 14,900 บาท กับความจุ 64GB สูงสุด 256GB มีให้เลือกสามสี ขาว ดำ และ แดง ที่ Product Red ในช่วงปกติ Apple จะสมทบกับกองทุนสู้กับ HIV แต่ในช่วงของ COVID-19 ทาง Apple ได้เพิ่มการสมทบทุนเข้ากองทุนต่อสู้กับ COVID-19 คาดว่า 2nd Generation iPhone SE สีแดง Product Red น่าจะเป็นสีที่คนสนใจกันมาก
Package & Bundled
แพคเกจก็เหมือนกับ iPhone รุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ ดูเรียบง่ายแบบฉบับของ Apple พิมพ์ลายด้านหน้าโชว์หน้าจอ ที่ลาย Wallpaper มันไม่ค่อยสวยเท่าไร ของในชุดที่จะมีคู่มือ, เข็มจิ้มซิม, EarPods การเชื่อมต่อ Lightning, สาย Lightning to USB Type-A ,ที่ชาร์จ 5 Watt และ สติกเกอร์ Apple
Design & Detail
การออกแบบดีไซน์ถ้านำ iPhone 8 ,7 หรือ 6 ถือเทียบกับ iPhone SE 2020 ในมุมด้านหน้า ยากที่จะแยกความแตกต่างออกจากกันได้ โดยขนาดจะอยู่ที่ 138.4 x 67.3 x 7.3 มม. น้ำหนัก 148 กรัม จับถนัดใช้งานมือเดียวสบาย พร้อมกับน้ำหนักที่เบา ในส่วนหน้าจอขนาดแสงผล 4.7 นิ้ว แบบ Retina HD ใช้ Panel IPS กล้องหน้าความละเอียด 7 MP f/2.2 รองรับการถ่าย QuickTake video จุดที่หลายๆคนนั้นคิดถึงตั้งแต่ช่วง COVID-19 นั้นก็คือ Touch ID ในปุ่ม Home เช่นเดียวกับ iPhone 8 ที่หายไปตั้งแต่ iPhone X โดนส่วนตัวถ้า Apple ทำ Touch ID ฝังใต้หน้าจอเหมือนกับฝั่ง Android จะดูน่าสนใจไปอีกแบบ
ด้านหลังที่เป็นกระจกคล้ายกับ iPhone 8 ใครที่แซวว่า iPhone SE เป็นการนำอะไหล่เหลือหลังโรงงานมาประกอบขึ้นมา ก็คงไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด เพราะกระจกหลัง 2nd Generation iPhone SE มีการปรับดีไซน์ด้วยการเลื่อนและขยายขนาดโลโก้ Apple พร้อมกับการตัดคำว่า "iPhone" ออกไป รวมถึงขั้วแบตยังต่างกันกับของ iPhone 8 เลยครับ แต่ในแง่ของมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นยังคงเป็นมาตรฐาน IP67 เช่นเดียวกับ iPhone 8 ทางด้านพื้นฐานการออกแบบก็ไม่แปลกที่ 2nd Generation iPhone SE หลับตาจับแล้วให้อารมณ์ความรู้สึกที่เหมือนกัน
แกนกลางโครงบอดี้ที่จะใช้วัสดุอลูมิเนียม ที่เราจะเห็นแถบพลาสสติกในช่วงบนและล่าง ทางด้านขวาจะมีปุ่มพาวเวอร์และถาดใส่ซิมการ์ดขนาดนาโนซิม ส่วนซิมการ์ดที่สองจะเป็น E-Sim ที่จะต้องติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมาตรฐานของการระบบเครือข่ายที่รองรับความเร็วระดับ Gigabit-LTE และ Wi-Fi 6 ที่จัดเต็มมาก ถ้าไม่ติดใจเรื่อง 5G นะครับ ถือว่าครบเครื่องทุกการเชื่อมต่อในยุค 2020 เอาแค่ Wi-Fi 6 กับเครื่องราคานี้ก็น่าสนใจแล้ว
ด้านซ้ายที่จะมีสวิตซ์ Slient Mode ที่คุ้นเคยกันดี พร้อมกับปุ่มเพิ่มและลดระดับเสียง
มาถึงด้านล่างกันต่อ อินเทอร์เฟสการเชื่อมต่อทั้งการชาร์จและถ่ายโอนข้อมูลที่จะเป็น Lightning ในแง่ของผู้ที่อัพเกรดมาจาก iPhone 5 ,6 ,7 ,8 หรือ SE 1st Gen ก็ยังคงสามารถใช้สายร่วมกับของเดิมได้ ที่ด้านล่างจะมีลำโพงฝั่งเดียวด้านขวานะครับ เมื่อเล่นเกมหรือดูวีดีโอตัวลำโพงตรงที่เราปกติใช้ตอนโทรศัพท์ จะดังร่วมกับลำโพงด้านล่าง ทำให้เสียงที่ออกมาเป็นสเตริโอ แต่ไม่มีระบบเสียง dolby atmos เหมือน iPhone 11 ส่วนทางด้านซ้ายเป็นไมค์โครโฟน อย่าไปเข้าใจผิดว่ามันคือลำโพงนะครับ
กล้องหลังความละเอียด 12 MP f/1.8 ทูโทนแฟลช รองรับการถ่ายวีดีโอได้สูงสุดระดับ 4K พร้อมกับระบบกันสั่นที่ทำออกมาได้ดียากจะหาใครมาเทียบ ฟีเจอร์ในการถ่ายภาพมีมากมาย แต่ไม่มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน ถ้ามีนี่ iPhone 11 จะน้อยใจเอาได้
ที่ชาร์จมาในกล่อง 5 Watt ซึ่ง 2nd Generation iPhone SE จะรองรับการชาร์จไว 18 Watt ที่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเอง แต่ของแท้ครบชุดก็ราวๆสองพันบาท ถ้างบจำกัดของดูเป็นแบรด์ชั้นนำที่ได้รับการรองรับ MFi ก็ประหยัดไปได้เยอะ พร้อมกับความสะดวกสบายในการ์จพลังงานด้วย Qi Wireless Charging แบบความเร็วมาตรฐาน แนะนำว่าอย่าเห็นแก่ของถูกหรือของไร้คุณภาพในการซื้อ Wireless Charger เพราะของไร้คุณภาพเครื่องจะร้อนมากเวลาชาร์จ แต่ถ้าของมีคุณภาพดีเครื่องจะแค่อุ่นๆ
เปรียบเทียบภายนอกกับ iPhone รุ่นขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว
iPhone SE 2020 ถ้ามองเทียบกับ iPhone โมเดลอื่นๆที่ใช้หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว เราคงจะเห็นได้อย่างชัดเจน มองแยกความแตกต่างออกยากมาก ยิ่งไปเจอเครื่องหน้าจอกระจกสีดำด้วยกันไม้ต้องคิดครับ ดูยากครับ
ด้านหลังถ้าเทียบกับ iPhone 6 หรือ 7 ที่จะมีความแตกต่างด้วยวัสดุ ซึ่ง iPhone SE 2020 จะใช้กระจก ไม่ได้ใช้อลูมิเนียมเหมือน iPhone 6 หรือ 7 โดย ตำแหน่งกล้อง iPhone SE 2020 จะเหมือนกับ iPhone 7 และ 8 ด้วยขนาดที่ใกล้เคียงกันมากต่างกัน มันก็สามารถใช้เคสร่วมกับ iPhone 7/8 ได้
การใช้งาน
Touch ID ในปุ่ม Home ตามแบบฉบับของ Apple ที่สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว เชื่อถือกับความปลอดภัยได้ ในยุคนิยาม New Normal คงช่วยเพิ่มความสะดวกในการปลดล็อกหน้าจอได้มากขึ้น
iOS ที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว โดย 2nd Generation iPhone SE จะมาพร้อมกับ iOS 13.4 แน่นอนถ้าเทียบกับการใช้งานกับ iPhone 6s ,7 และ 8 ในแง่ของการใช้งานนั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันแต่อย่างไร ยกเว้นในแง่ความไวและไหลลื่นที่ 2nd Generation iPhone SE จะทำได้เหนือกว่า โดยถ้ายังคิดว่าเครื่องเดิมยังใช้ได้ดี ไหลลื่นอยู่ ไม่มีปัญหาอะไรแนะนำว่าอย่าไปลองครับ หน้าจอแสดงผลความละเอียดความละเอียดระดับ HD สีสันดูสดใสไม่เสียชื่อ Apple ที่จะติดอมเหลืองถ้าเทียบกับ iPhone 6/7/8 ที่ผมใช้หรือยืมมาลองเทียบดู โดยหน้าจอแสดงผลมาพร้อมกับฟีเจอร์ True Tone ที่จะปรับแสงสีให้มีความเหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมขณะการใช้งาน
การใช้งานทางด้านความบันเทิง ถ้าจะมาเน้นความใหญ่สะใจของหน้าจอ ที่ 2nd Generation iPhone SE จอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD นั้นยังคงไม่สามารถตอบโจทย์ในจุดนี้ได้อย่างเต็มตากับผู้ที่ติดการใช้สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ที่ระบบเสียงสเตอริโอที่ทำออกมาได้ดี ให้ความสะใจของเสียง เสียงที่จูนออกมาให้ความถี่ลงตัวครบถ้วนทุกย่านความถี่ ตามความเป็นได้ของสมาร์ทโฟนราคาระดับนี้ ในส่วนการดู Youtube วีดีโอที่เหมาะกับหน้าจอสัดส่วน 19:9 ถ้าดูบน 2nd Generation iPhone SE จะมีแถบดำด้านบนและล่าง โดยเทียบกับพวกรุ่นหน้าจอ 19:9 ก็ขยายทำให้สามารถดูได้เต็มหน้าจอโดยไม่มีแถบดำบนและล่าง มันเต็มตามากกว่า
การเล่นเกมที่ด้วยหัวใจหลัก Apple A13 Bionic จัดจ้านที่สุดในช่วงเวลานี้ เพราะ iPhone 12 ยังไม่ออก (55555) โดยในแง่ความไหลลื่นของภาพที่ต้องบอกว่าสุดมาก ยิ่งมาประมวลผลภาพด้วยจอความละเอียด HD มันเลยมีข้อด้อย มันดูสวยแบบไม่สุด ยิ่งการใช้จออัตราส่วน 16:9 ในการเล่นเกมสมัยใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อจอสัดส่วนประมาณ 19:9 มันเลยทำให้มีพื้นที่ในการ แสดงผล จุดสั่งการ หรือ สถานะ สามารถเล่นได้อย่างเต็มตามากกว่าหน้าจอสัดส่วน 16:9
ใน 2nd Generation iPhone SE กล้องถ่ายรูปทั้งหน้าและหลัง ที่สเป็คนั้นไม่ได้มีความแตกต่างจาก iPhone 8 อะไรเลย ถ้านับกันที่คุณภาพของภาพถ่ายที่มีแสงมากพอ ดูผ่านๆเหมือนไม่ต่างกันนัก แต่ 2nd Generation iPhone SE ถ้ามาซูมภาพดูเทียบ การเก็บรายละเอียด ความคม สีสัน และ โทนสี ที่ 2nd Generation iPhone SE ทำออกมาได้ดูดีกว่า รวมไปถึงการการถ่ายโหมด HDR ถ่ายย้อนแสง การเก็บรายละเอียด สีสันชดเชยกันได้สมกับระดับราคา ส่วนของโหมดถ่ายกลางคืนไม่ได้ถูกใส่มาเหมือน iPhone 11 โดยการถ่ายวีดีโอระบบกันสั่นและโฟกัสทำได้ดีตามแบบฉบับของ iPhone แล้วสามารถรองรับการถ่ายวีดีโอสูงสุดระดับ 4k 60FPS ***ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องจะอยู่ท้ายบทความครับ*** ถ้าสรุปสั้นและง่ายที่สุด แสงน้อยนอสย์ก็มาเยอะ แสงดีภาพก็สีสันสวยสดใส
โหมดการถ่ายภาพ Portrait แม้จะมีกล้องหลังตัวเดียว 2nd Generation iPhone SE ก็ยังสามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือน iPhone XR โดยโหมด Portrait ที่จะสามารถปรับโหมดให้เข้ากับแสงในขณะการถ่ายภาพได้ เท่าที่ลองเล่นมาทำได้ดีครับ แต่ข้อแม้ในเรื่องของระยะห่างจะมีผลต่อการละลายฉากหลัง ผลส่วนนึงจากการถ่ายภาพที่ดีขึ้นด้วย A13 Bionic เข้ามาช่วยประมวลผล แต่มันมีกล้องแค่ตัวเดียวการตัดขอบไม่ดีเหมือนกับรุ่นพี่ที่มีกล้องหลายตัว ในการถ่าย Portrait บางภาพที่ออกมาให้รู้สึก ถ้าภาพไหนตัดไม่ไหวก็อย่าไปตัด ภาพออกมาดูไม่ได้จริงๆ
2nd Generation iPhone SE ถึงแม้จะเป็นดีไซน์เดิมๆ มันก็คือข้อดีของคนที่เปลี่ยนจาก iPhone 6 ,7 และ 8 ด้วยขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว จับง่าย น้ำหนักเบา ใช้งานมือเดียวถนัด ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก แล้วข้อดีอีก 1 อย่าง พวกอุปกรณ์เสริมที่รองรับ iPhone 7 และ 8 ก็สามารถนำมาใช้กับ 2nd Generation iPhone SE โดยไม่ต้องซื้อใหม่ ในภาพเป็นเคสที่ผมซื้อมาจะใส่กับ iPhone 6s สี Space Gray ลองใส่แล้วรู้สึกสีไม่เข้า ในที่สุดก็ได้เอามาใช้กับ 2nd Generation iPhone SE ซะที
2nd Generation iPhone SE มีความสามารถป้องกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP67 ที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ในช่วงระยะเวลานึงเท่านั้น ซึ่งมันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานใต้น้ำได้ เป็นการออกแบบเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันครับ ถ้าจะเอาไปดำน้ำเล่น ถ่ายปะการัง ควรใส่เคสกันน้ำที่ออกแบบมาโดยเฉพาะจะดีกว่าครับ ผมลองแกล้งเผลอทำตกสระว่ายน้ำที่บ้าน ลงไปเก็บ เซ็ดเครื่องให้สะอาด ก็ใช้งานได้ปกติ
Conclusion
iPhone SE 2020 หรือ 2nd Generation iPhone SE มันเป็นสมาร์ทโฟนที่ไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำมากมายนัก ด้วยการออกแบบดีไซน์ที่เราคงเห็นชัดเจนมันคือ iPhone 8 ปรับนิดหน่อย พร้อมด้วยการใช้หัวใจหลักเป็น Apple A13 Bionic ที่จุดนี้ถือเป็นจุดเด่นของ iPhone SE 2020 สมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงในยุค 2020 ด้วยราคาที่จับต้องได้ง่าย แต่ต้องแลกกับฟีเจอร์การใช้งานที่ด้อยกว่า iPhone 11 ที่ราคาเปิดตัวต่างกันประมาณหนึ่งหมื่นบาท แต่ด้วยการใกล้มาของ iPhone 12 ด้วยโปรโมชั่นต่างๆ มันทำให้ส่วนความแตกต่าง ที่มีการลดลงมาบ้างครับ สำหรับ 2nd Generation iPhone SE คงเป็นที่ถูกใจกับคนชอบสมาร์ทโฟนเครื่องเล็ก น้ำหนักเบา ใช้งานมือเดียวถนัด หรือ ใครที่สนใจอยากจะลองใช้ iOS และ Apple Eco System เริ่มต้นด้วยราคาสมาร์ทโฟนในราคาเปิดตัวเริ่มต้นประมาณหนึ่งหมื่นห้าพันบาท ที่ความจุ 64GB ถ้ามีงบมากพอลองตัดสินใจกับความจุ 128GB เพิ่มอีกสองพันใช้งานสบายใจกว่ากันมาก ซึ่งถ้าซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ จะปล่อยขายมือสอง ด้วยความเป็น Apple ราคาขายต่อที่ไม่เจ็บตัวมากนัก ในแง่ของการใช้งานจากแบตความจุ 1,821mAh โดยส่วนตัวที่ใช้มามันก็พอใช้งานรอด 1 วันได้สบาย ใครใช้ iPhone 6/7/8 เอาตัวรอด 1 วันได้อยู่แล้ว ก็ไม่รู้สึกมีความแตกต่างในจุดนี้ ถ้าไม่อยากจะลุ้น ควรต้องพกแบตสำรองตัวเล็กไว้อุ่นใจมากกว่าแน่นอน โดย 2nd Generation iPhone SE ในแง่การใช้งานนั้นมันไม่ได้แตกต่างจาก iPhone 6s/7/8 อะไรมาก มีบั๊คอยู่บ้างเป็นเรื่องปกติของรุ่นออกมาใหม่ แต่จุดนี้นึงที่ไม่ทราบว่า มันเป็นความตั้งใจของ Apple หรือเปล่า เพราะ Haptic Touch ไม่สามารถใช้งานที่ Notification โดยปกติผมจะใช้ 3D Touch กับการแอบส่องจาก Notification คงต้องรอดูว่าทาง Apple จะออกมาอัพเดทการใช้งานส่วนนี้เพิ่มเติมเหมือนกับ iPhone XR หรือเปล่า สรุปง่ายๆกับ iPhone SE 2020 หรือ 2nd Generation iPhone SE จุดเด่นหลักเน้นกับ ขนาดเครื่อง และ(หรือ) ราคาจับต้องได้ รวมกับประสิทธิภาพของ Apple A13 Bionic ซึ่งในทางเลือก ถ้าต้องการใช้งาน Apple Eco System รับได้เครื่องที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ ลองมอง Apple 11 เพิ่มเงินอีกหน่อยใช้งานไม่ต้องหงุดหงิด หรือ ไม่ได้สนใจอะไรกับ Apple Eco System ชอบเครื่องหน้าจอใหญ่เต็มตา ลองดูฝั่ง Android ที่งบหนึ่งหมื่นห้าพันบาท หน้าจออลังการ กล้องมาเป็นแผง ที่มีตัวเลือกให้ตัดสินใจกันเต็มไปหมด สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ