กราบสวัสดี พ่อแม่พี่น้องลุงป้านาอาที่เคารพรักกระผมนายทองดีเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ขอรายงานตัวครับมารายงานในยามที่ฝนตกชุ่มฉ่ำๆตกได้ทั้งวัน ออกไปไหนมาไหนก็ไม่สะดวก เลยเอาโปรเจคเตอร์ตัวใหม่จาก BenQระดับ 4K มาลองกันในยามฝนพรำ ไม่ต้องไปไหนไม่เปียกเสี่ยงต่อน้ำรอการระบายด้วย
True 4K UHD Projector W2700 เป็นพระเอกของเราในวันนี้มาฉลองจอใหม่ที่เพิ่งจะติดตั้งเสร็จพอดีก่อนอื่นเราดูรูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนเลย

รูปร่างหน้า ก็ยังคงเอกลักษณ์ของ BenQ ไว้อย่างเหนียวแน่นเรียกว่าเห็นปุ๊บก๋รู้เลยว่าเป็น BenQ โดยด้านหน้าเป็นสีแชมเปญดูมีราคาด้านซ้ายเป็นโลโก้ ส่วนเลนส์อยู่ทางด้านขวามือโดยมีการกำจัดแสงรั่วทางด้านหน้าเลนส์ (Eliminates lightleakage)และตีตรา 4K HDR ไว้ด้วยเลย

ด้านหลัง เป็นจุดเชื่อมต่อทั้งหมด โดยช่อง usb 3.0 เป็นแบบ USB Media Reader ซึ่งเราสามารถที่จะนำไฟล์ วีดีโอ ภาพ และเสียงใส่แล้วนำมาฉายได้เลย รองรับไฟล์ได้หลายรูปแบบส่วนอีก 1ช่อง usb เป็นแบบ ชาร์ตไฟได้ (2.5A)และเชื่อมต่อกับ Chromecast HDMI มีมาให้ 2 ช่องเป็น HDCP 2.2 ทั้ง2(ถ้าสงสัยว่า HDCP คืออะไรก็เข้าไปดู ที่นี่ เป็นความรู้ดีดีที่เพื่อนๆสมาชิกได้เขียนบรรยายไว้)จากนั้นก็เป็น Audio out ซึ่งมีทั้ง 2 แบบ คือแบบแจ๊ค 3.5 mm. และ spdifแต่ทาง BenQ ก็ยังมี BenQ CinemaMaster Audio+ 2 audioให้คุณภาพเสียงคมชัดอีกทั้งยังให้กำลังขับภายในเครื่องด้วยลำโพงขนาด 10Wเพียงพอสำหรับการนำเสนอภายในห้องประชุม แต่สำหรับการชมภาพยนตร์ก็คงจะต้องต่อเข้าเครื่องเสียงชุดใหญ่เพื่อให้ความสมจริงทั้งภาพและเสียง

4K-optimized Lens Array โครงสร้างเลนส์ประกอบด้วยเลนส์จากแก้ว(ไม่ใช่พลาสติก)รวมทั้งหมด 10 ชิ้น 8กลุ่มในกระบอกโลหะ เพื่อประสิทธิภาพในการแสดงผลและป้องกันแสงรั่วไหลที่ดีที่สุด

ด้านบน เป็นตำแหน่งของปุ่มควบคุมการทำงานต่างๆ แต่ถ้าติดตั้งแบบแขนไว้ด้านบน ก็คงต้องพึ่งพารีโมทสถานเดียวเท่านั้น

การปรับเลนส์วางอยู่เหนือเลนส์โดยมีฝาเปิดปิดกันแสงรั่วมาให้พร้อม

ต้องการปรับโฟกัส หรือซูมภาพก็เพียงแค่เลื่อนเปิดฝาออก

อุปกรณ์ต่างๆที่มีมาในกล่อง คู่มือ สายไฟ AC รีโมท และ ISFccc® Certified Visual Calibration หนังสือรับรองว่าผ่านการปรับแต่งสีมาเรียบร้อยแล้ว

หลังจากติดตั้ง ต่อสาย เสร็จเรียบร้อย พอเปิดเครื่อง ก็จะเข้าสู่โหมดของการปรับแต่งภาพก่อนใช้งาน เพื่อคุณภาพที่สุดยอดที่สุด
เลือกภาษาที่ต้องการ มีภาษาไทยของเรามาให้ด้วย สำหรับผู้ที่แข็งแรงเฉพาะภาษาตัวเอง
จากนั้นก็ ก็เข้าสู่ขั้นตอนของการปรับ Keystone ซึ่งกระผมปรับออโต้ไว้ ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย สะดวกและง่ายดายจริงๆ
ไม่ได้ทำอะไรจริงๆ เครื่องปรับแต่งมาให้ใช้งานได้เลย พอขั้นตอนจบก็แต่ปรับซูมเข้าออกให้พอดีกับขนาดจอและโฟกัสแค่นั้นก็ใช้งานได้เลย ในขณะอยู่ที่หน้าจอของการปรับแต่ง ขอบจอจะมีติดสีชมพูแต่ตอนใช้งาน แทบจะมองไม่เห็นเลย
มาลองชมคุณภาพกันเลย กระผมใช้เพียงแค่ Mi Box และเปิด Netflix 4K แค่นั้น ง่ายๆแต่คุณภาพคับแก้ว
สารคดี4K จาก Netflix ให้คุณภาพน้องๆโรงหนังเลย สีขาวก็ให้ได้ดีเยี่ยม สีดำก็ทำได้ดีทีเดียว (ถ่ายภาพจากจอโดยผ่านการตัดขอบออกเพื่อความสวยงาม)
(ภาพทั้งหมด ถ่ายภาพจากจอโดยผ่านการตัดขอบออกเพื่อความสวยงาม)
สรุปว่า ดูแล้วอยากได้มาไว้บ้าง เพราะคุณภาพล้นแก้วจริงๆ ใครที่ชอบดูหนังอยู่บ้าน น่าจะไปหาทดลองดู ว่าภาพชัดสมจริง ปรับแต่งง่าย ราคาพอจะเอื้อมถึง CinemaMaster Audio+ 2 ถ้านำมาใช้ในบ้านกับชุด โฮมเทียเตอร์คงจะไม่ได้เห็นประสิทธิภาพสักเท่าไหร่ เพราะคงไม่มีใครใช้แค่ลำโพงในตัวเครื่องในการชมแน่ๆ ขอบจอภาพมีติดสีชมพูบ้างแต่แทบจะมองไม่ออกในขณะชมภาพยนตร์ HDR-PRO ให้คุณภาพที่ดีน่าประทับใจ ราคาค่าตัวไม่เกิน 60,000 บาท ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวครับสำหรับ โปรเจคเตอร์ระดับ 4K ตัวนี้
price : 5x,xxx bath
**ภาพด้านล่างถ่ายจาก Teaser 4k เปิดจาก ยูทูป