สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน ถ้าเราพูดถึงแบรนด์ ANTEC เราคงจะนึกถึงพาวเวอร์ซัพพลายคุณภาพดี ซึ่งแบรนด์ ANTEC ในปีนี้ก็ครบรอบอายุ 35 ปีแล้ว ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนาน วันนี้ก็ถือโอกาสหยิบยกพาวเวอร์ซัพพลายตระกูลใหม่มาให้ได้ชมกัน สำหรับ ANTEC Neo ECO กับโมเดลการจ่ายพลังงาน 850 และ 750 Watt ที่เป็นพาวเวอร์ซัพพลายมาตรฐาน 80+ Gold ด้วยกำลังขนาดนี้ที่จะเหมาะสมกับเกมเมอร์ ,นักโอเวอร์คล็อก รวมไปถึงประสิทธิภาพสูงที่สเป็คเครื่องไม่ได้โหดรเกินไป ที่ยังมีความน่าสนใจในการใช้งานด้วยการเป็นสายการเชื่อมต่อที่จะเป็นแบบ Full Modular จัดสายสะดวก อะไรไม่ใช้ก็ไม่ต้องเสียบ รวมไปถึงการสร้างสายเองเพื่อความสวยงามและความยาวที่พอดี อีกทั้งทาง Antec ยังมีการเน้นเลือกใช้อุปกรณ์คุณภาพดี ที่ขัดจากความรู้สึกที่เห็นชื่อรุ่น "Eco"
เทคโนโลยีที่น่าสนใจคือ PhaseWave LLC (load line calibration) พูดง่ายๆว่าความต่างศักย์มันจะพยายามจ่ายให้เป็นเส้นตรงมากที่สุด ถ้าสูงไปก็ลดลง ถ้ามากไปก็เพิ่มขึ้น และ ความความต่างศักย์ที่จ่ายออกมานั้นจะใช้เทคนิคลดไฟ DC มาเป็น DC ซึ่งโดยปกติจะเป็นการใช้ AC to DC
Package & Bundled
ตัวแพ็คเกจด้วยธีมสีดำตัดกับเทา ดูแล้วมีความเป็น ANTEC อย่างชัดเจน
ในชุดจะมีสาย AC C13 ,ที่เก็บสายไฟ และ คู่มือการใช้งาน
ในส่วนของตัวสายที่จะเป็นสายสีดำ ที่ดูเรียบง่ายแต่สวยงามดี ซึ่งด้วยความเป็นพาวเวอร์ซัพพลายแบบ Full Modular ถ้าต้องการความสุดที่สายความยาวพอดี ไม่ต้องไปซุกซ่อนด้านหลังเคส รวมไปถึงสายรูปแบบต่างๆ ก็เอามาขึ้นสายใหม่เข้าหัวเองได้
Design & Detail
ANTEC Neo ECO ตัวพาวเวอร์ซัพพลายจะเป็นแบบมาตรฐาน ATX แต่จะมีความยาวแบบมาตรฐานที่นิยมใช้กัน บอดี้ใช้เหล็กปั๊มขึ้นรูปพ่นสีแบบไฟฟ้า พร้อมการเจาะช่องระบายรังผึ้ง ฉลากด้านข้างที่บ่งบอกความเป็น ANTEC Neo ECO ซึ่งพาวเวอร์ซัพพลายตัวนี้จะไม่มีแสงสี RGB ใดๆทั้งสิ้น
การเชื่อมต่อสายเป็นในรูปแบบ Full Modular ที่การออกสามารถเสียบและถอดออกได้ไม่ยากมาก แม้จะจัดการสายหลังจากพาวเวอร์ซัพพลายที่ติดตั้งเข้าไปในเคสแล้ว เดี๋ยวตอนมาแกะส่องข้างในเราจะมาดูวงจรในส่วนนี้กัน
สเป็คความสามารถในการจ่ายพลังงานที่ Full Modular จะคิดตามสเป็คไฟ 12V เท่านั้น ปัดเศษขึ้นนิดหน่อยออกมาเป็น 850 และ 750 Watt ซึ่งเป็คจากผู้ผลิตนั้นเน้นที่ความสามารถในการโหลดได้ต่อเนื่อง ไม่ได้ระบุสเป็คที่โอเวอร์เกินไป เพราะถ้าคิดรวมที่ไฟ 3.3 และ 5v ด้วย ถ้าเขียนแบบชวนฝันมันต้องมากกว่า 850 และ 750 วัตต์ ที่ระบุเอาไว้
ช่องตระแกรงระบายความร้อนทื่ทำออกมาเป็นช่องรังผึ้งดูสวยงาม จะมีปุ่ม Hybrid Mode ที่พัดลมจะเริ่มทำงานเมื่อมีความร้อนสูงระดับนึง ถัดมากับสวิสซ์เปิดปิด และ เต้ารับ IEC C14 ถือว่าเพียงพอกับระดับการใช้พลังงาน
ตระแกรงพัดลมที่ยังคงเจาะช่องทรงรี โดยพัดลมระบายความร้อนขนาด 12 ซม. ที่จะเน้นเสียงรบกวนต่ำ แต่ถ้าใครยังคิดว่าดัง หรือ ชื่อชอบเสียงรบกวนที่ต่ำสุดๆ สามารถเปิด Hybrid Mode ได้
พัดลม 12 ซม. ข้างที่ใช้จาก Yate Loon ในแง่ของคุณภาพตัวพัดลมเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในตลาด
มาถึงในส่วนแผงวงจรการทำงานหลักของพาวเวอร์ซัพพลาย ที่เมื่อครั้งแรกที่พบเห็นนั้น รู้สึกได้ทันทีว่ามันคือการเลือกใช้อุปกรณ์คุณภาพที่ดี ขัดกับความรู้สึกที่อ่านชื่อ "Eco" บนกล่อง
คาปาซิเตอร์ภาคฟิวเตอร์ ของญี่ปุ่นแน่นอนแบรนด์ Nippon Chemi-Con
ในวงจรกรองกระแสต่างๆ ที่มีการใช้คาปาซิเตอร์ Rubycon และ Nichicon รวมไปถึงส่วนอื่นๆใช้แบรนด์ผู้ผลิตจากญี่ปุ่นทั้งหมด
ในส่วนของวงจรลดแรงแรง DC to DC ที่การออกแบบนั้นที่จะใช้วงจรแยกออกมาเพื่อเสถียรภาพในการจ่ายพลังงาน
อีกหนึ่งหัวใจหลักสำคัญของพาวเวอร์ซัพพลายแบบถอดสายได้ ซึ่งการออกแบบในส่วนแผ่น PCB ที่จะมีการใช้แผ่นทองแดงที่มีความหนา เพื่อให้การจ่ายพลังงานมีเสถียรภาพ ซึ่งจุดด้อยของ Full Modular นอกจากเต้ารับไม่แน่นที่จะเกิดความร้อนและความเสียหายได้ ที่สำคัญคือในแผงวงจรส่วนนี้ด้วย ถ้าแผ่นทองแดงบาง วงจรไม่ดีก็สร้างปัญหาได้
สำหรับในรุ่น 850 Watt การเชื่อมต่อต่างๆนั้นที่ทาง Antec ใส่เข้ามานั้นเพียงพอกับการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับเมนสตรีม ซึ่งจะชกข้ามรุ่นไปใส่กับเมนบอร์ดระดับไฮเอนด์ก็ยังพอทำได้
ในรุ่น 750 Watt แน่นอนว่าการเชื่อมต่อต่างๆนั้นจะน้อยกว่ารุ่น 850 Watt ที่ Sata ,Molex และ 8 Pin PCIe จะมีน้อยกว่า
Conclusion
ANTEC Neo ECO ในโมเดลกำลังการจ่ายพลังงาน 850 และ 750 Watt เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของพาวเวอร์ซัพพลายสำหรับคอมพิวเตอร์เกมมิ่ง และ สายการทำงานในระดับเมนสตรีม จนไปถึงเกือบระดับไฮเอนด์ จากแบรดน์ชั้นนำอย่าง ANTEC ซึ่งนอกจากกำลังการจ่ายพลังงานตามสเป็คที่ด้วยความเป็น Antec นั้นไม่ได้เขียนโอเวอร์เกินสเป็ค ที่มาพร้อมกับมาตรฐาน 80+ Gold ในราคาที่จับต้องได้ง่าย นอกจากการใช้อุปกรณ์ภายในคุณภาพดี คาปาซิเตอร์จากผูู้ผลิตญี่ปุ่น พร้อมกับ Full Modular จัดสายสะดวกมากขึ้น ซึ่งโดยส่วตัวที่ผมถูกใจนอกเหนือจากอุปกรณ์ภายใน ก็คือเทคโนโลยี PhaseWave LLC (load line calibration) ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นมีเสถียรภาพมากขึ้น ถ้ามากไปก็ลด ต่ำไปก็ปรับเพิ่ม นอกจากเสถียรภาพ ก็ยังสามารถช่วยถนอมอุปกรณ์ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรารักได้อีกด้วย สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : 850 Watt 3,790 บาท และ 750 Watt 3,290 บาท
Special Thanks : Ascenti Resources Co.,LTD.