สวัสดีชาวโอเวอร์คล็อกโซน ก่อนการเปิดตัวที่ AMD ได้สร้างความสับสนให้กับคู่แข่ง ด้วยการลดราคาเริ่มต้นของ RX 9070 โดย AMD ให้การ์ด Radeon RX 9070 ทีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเกมเมอร์ 85% ซื้อการ์ดจอในที่ต่ำกว่า 700 ดอลลาร์ โดยเน้นเป้าหมายที่ความละเอียดที่ระดับ 2k และ 4k ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมที่รองรับ Ray Tracing และ การอัปเกรดที่ง่าย ที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่ใช้เต้ารับพลังงาน PCIe 8 Pin การอัพเกรดของเดิมที่ดูไม่ยุ่งยาก จะมีแค่ไม่กี่ตัวที่ใช้ 12V-2x6
จากที่ AMD ได้มีการประกาศไม่ทำกราฟฟิกการ์ด Hi-End สูงสุดเน้นระดับการใช้งานที่ความละเอียด 2K ถึง 4K ไม่มีระดับที่สูงกว่าการเล่นเกม 4K ลงตลาด AMD RDNA 4 มุ่งเป้าไปที่ราคาและประสิทธิภาพ พร้อม AI และ RayTracing ได้รับการปรับปรุง นอกจากนี้ยังจะเป็นรุ่นที่ 3 ของ AMD และ AI Accelerators ในเจนที่ 2 และ Radiance Display Engine ที่ AMD จะยังคงใช้แนวทางชิปเล็ต TSMC N5 / N6 FinFET เช่นเดียวกับใน RDNA 3 แต่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการประมวลผลที่สูงขึ้น โดยเน้นพลังดิบ ที่ AMD ไม่ได้สงใจพลังปลุกเสกจากความสามารถ Frame Generation มากมากนัก (โดยมองจากเกมที่รองรับในขณะการทดสอบ) แต่เรื่องซื้อวันนี้แรงขึ้นในวันหน้าจะมองว่าเป็นข้อดีของ AMD ก็ได้นะ
RDNA 4 ที่เราจะได้เจอกันในวันนี้เป็น RX 9070 ยังมิใช่ RX 9070 XT ระดับท็อป ถ้าเรามองในแง่ดีที่ RX 9070 Series ยังอยู่ในกรอบเล่นเกมความละเอียด 2K ถึง 4K เหมือนกัน แต่ถ้าเล่นเกมไปทางด้านความละเอียด 2K เราจะได้การใช้ไฟต่ำกว่าประมาณ 100 วัตต์ พร้อมทั้งความร้อนที่ลงมาด้วย ความน่าสนใจของประสิทธิภาพจาก AMD RDNA 4 รวมฟีเจอร์ Raytracing และ AI accelerator ผนวกเทคโนโลยี AMD Infinity Cache พร้อมรองรับเทคโนโลยี Ai มอบประสิทธิภาพมากกว่าเดิม AMD Radeon RX 9070 ด้วยเทคโนโลยีการผลิต 5 นาโนเมตร รหัสการพัฒนา NAVI 48 XL มี 3584 Stream Processors ,56 Compute Units พกพาแรมมา 16 GB แบบ GDDR6 ความกว้าง 256 BIT ส่วนว่าจะแรงแค่ไหน เดี๋ยวเรามาว่ากัน
RX 9070 | RX 9070 XT | RX 7700 XT | RX 7800 XT | RX 7900 GRE | |
Architecture | RDNA 4/Navi 48 XL | RDNA 4/Navi 48 XT | RDNA 3/Navi 32 XL | RDNA 3/Navi 32 XT | RDNA 3/Navi 31XL |
Compute Units | 56 | 64 | 54 | 60 | 80 |
Ray Tracing Core | 56 | 64 | 54 | 60 | 80 |
AI accelerator | 112 | 128 | 108 | 120 | 160 |
Process Type | N5 / N6 FinFET | N5 / N6 FinFET | N5 / N6 FinFET | N5 / N6 FinFET | N5 / N6 FinFET |
Memory | GDDR6/16GB | GDDR6/16GB | GDDR6/12GB | GDDR6/16GB | GDDR6/16GB |
Board Power | 220W | 304W | 245W | 263W | 260W |
Boost Clock | 2.54 GHz | 2.97 GHz | 2.55 GHz | 2.43 GHz | 2.25 GHz |
Connectivity | PCIe 5.0 x16 | PCIe 5.0 x16 | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
Display |
DisplayPort 2.1a HDMI 2.1b |
DisplayPort 2.1a HDMI 2.1b |
DisplayPort 2.1 HDMI 2.1 |
DisplayPort 2.1 HDMI 2.1 |
DisplayPort 2.1 HDMI 2.1 |
Package
แพคเกจมาในธีมดำสลับด้วยสีแดง ลวดลายที่บ่งบอกความโหดแบบ Red Devil
ระบุมาอย่างชัดเจน มีความต้องการพาวเวอร์ซัพพลาย 800 วัตต์ ขั้นต่ำ
ในกล่องไม่มีอะไรคู่มือ มี QR Code ให้อ่านเท่านั้น ใส่ในโปสการ์ด ด้วยความเป็นโมเดล Red Devil มีที่ค้ำการ์ดจอสีดำแดงมาให้ และ โลโก้ Red Devil สำหรับการติดเคส
สายเชื่อต่อ ARGB สำหรับการ Sync ไฟเป็นธีมเดียวกัน
VGA Detail
ตัวการ์ดที่ออกแบบมาใช้พื้นที่ 2 Slot หน่อยๆ ยังไม่ถึง 3 Slot ความยาว 34.5 สูง 14.7 หนา 6 ซม. ที่ตัวการ์ดจะเป็นฝาครอบพลาสติกสีดำตัดกับอลูมิเนียมสีดำ ลวดลายมาดูดุสมกับ Red Devil โดยรวมที่ดูดัน ที่มีการใช้ฮีทซิงค์ พัดลมระบายความร้อน 3 ตัว 10 ซม.
ด้านหลังที่จะมาพร้อมกับ Backplate อลูมิเนียมสีดำ ที่มีลายคงตามแบบฉบับ Red Devil ที่ยังคงความโหดด้วยลวดลายที่ท้ายการ์ด
มุมสันการ์ดที่เราจะเห็นว่าเป็น 2 slot หน่อยๆ ที่มีการใช้ครีบการระบายความร้อนสีดำ ที่ความสูงของการ์ดมันจะมากกว่าปกติหน่อย
ความต้องการพลังงานเพิ่มเติมทางเต้ารับ PCIe 8 Pin สองปลั๊ก พร้อมการเชื่อมต่อ ARGB สำหรับการ Sync เป็นธีมเดียวกัน
ท้ายการ์ดที่มีช่องระบายความร้อนตามสมัยนิยม และเป็นพื้นที่แต่งสวย มีโลโก้ Red Devil อยู่ ที่จะติดไฟสีแดงเมื่อใช้งาน
Bios switch ที่ปรับได้โหมด Overclock เน้นประสิทธิภาพ และ Slient เน้นการใช้งานเสียงรบกวนต่ำ
ท้ายการ์ดที่มีทรงออกแบบเข้ากับธีม Hellstone และ ติดเป็นไฟสีแดงเมื่อการ์ดทำงาน
พัดลมคุณภาพ เลือกใช้ลูกปืนจากญี่ปุ่น พร้อมใช้ลูกปืนตลับคู่ ใบพัดแบบ Ring-fan Blade Design 9 ใบ ที่ลดความร้อนได้มากถึง 3 องศา GPU Direct-Contact Copper Plate ที่ครอบคลุมเม็ดแรม ท่อฮีทไปท์ทองแดงจำนวน 7 เส้น ขนาด 6 มม. ช่วยเอาความร้อนจาก PCB ออกไปได้รวดเร็วมากขึ้น มีการใช้สารระหว่างกราฟฟิกชิพและฮีทซิงค์ Honeywell PTM7950 เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดีขึ้น พร้อมการใช้ DrMOS ภาคจ่ายไฟ 10+1+3+1 เฟส ที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการใช้งานมากขึ้น PCB แบบ14 layer ที่มีการใช้แผ่นทองแดง 2 oz แน่นอนเพื่อเถียรภาพ รองรับการใช้งานอย่างหนักหน่วงได้เป็นอย่างดี
อินเทอร์เฟสการเชื่อมต่อเป็น PCI Express 5.0 16x ที่รองร้บการใช้งานย้อนหลังได้
พัดลม 10 ซม. เลือกใช้ลูกปืนจากญี่ปุ่น พร้อมใช้ลูกปืนตลับคู่ ใบพัดแบบ Ring-fan Blade Design 9 ใบ ที่ลดความร้อนได้มาก
การออกแบบการ์ดตามสมัยนิยม ที่เน้นสูง แต่สั้น
การเชื่อมต่อสัญญาณภาพ DisplayPort 2.1a 3 พอร์ต และ HDMI 2.1a
ไฟที่การ์ด เดิมๆในธีมสีแดง Red Devil ที่บริเวณฝาครอบ และ Hellstone
โลโก้ Red Devil ติดเมื่อการ์ดติดทำงาน ที่สามารถปรับทาง Software ของ PowerColor หรือ ARGB ที่ต่อสายได้
ในส่วน AMD Software ในการใช้งาน
ฟีเจอร์ AI ในการใช้งาน AMD Chat
ในส่วนการเปิดใช้งานฟีเจอร์การใช้งานของการ์ด
ในส่วนฟีเจอร์ที่มีมาให้ใช้งานมากกว่าการเล่นเกม
การเปิดการใช้งานฟีเจอร์ HYPR-RX เพื่อการยกระดับการใช้งาน
ข้อมูลของการ์ดที่แจ้งผ่าน GPU-z ถือว่าเกือบครบถ้วน สามารถดูในเรื่องการใช้พลังงาน ความร้อนในส่วนต่างๆได้ครบ ยังมี Hot Shot เหมือนเดิม
ข้อมูลของการ์ดที่แจ้งผ่าน AIDA64 ครบถ้วนแล้ว หลังจากอัพเวอร์ชั้นล่าสุด แจ้งว่าเป็น AMD Radeon RX 9070
การทำงานของตัวการ์ด
System Setup
- M/B : MSI B650 Gaming Plus WiFi
- CPU : AMD Ryzen 7 9700X
- Memory : Kingston FURY Renegade DDR5 RGB 6800MHz 32GB
- CPU Cooler : ROG STRIX LC II 280 ARGB
- SSD : Kingmax PQ4480 1TB
- PSU : Thermaltake M1650
- OS : Windows 11 Pro 24H2
บรรยากาศขณะการทดสอบ
Performance Test
Conclusion
AMD Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT จะไม่มีการ์ด Reference เหมือนกับ RX 7900 Series ,RX 7800 XT ,RX 7700 XT และ RX 7600 Series ที่เราได้ทดสอบลองความแรง PowerColor Red Devil Radeon RX 9070 ตัวโหดจากค่ายพลังสี ด้านหลังกล่องระบุความต้องการที่พาวเวอร์ 800 วัตต์ จะต่ำกว่า RX 9070 XT ที่ 900 วัตต์ AMD Radeon RX 9070 ความแรงที่ถูกวางให้ออกมาทำตลาดในการเล่นเกมที่ระดับ 2k ถึง 4k ถ้าเทียบกับ RX 7700 XT ,RX 7800 XT และ RX 7900 GRE ที่ประสิทธิภาพในการเล่นเกมทำออกมาได้เหนือกว่านั้น ในจุดที่ไม่ได้ซดพลังงานมากไป ยังอยู่ในจุดที่รับได้ Radeon RX 9070 ความแรงที่ออกมา สำหรับการ์ดตัวนี้ที่เหมาะกับการเล่นเกมที่ความละเอียด 2k ที่ฮ้าวไปเล่นเกมระดับ 4k ได้สบายๆ เอาเป็นว่าเกมในปี 2025-2026 ที่ AMD Radeon RX 9070 เล่นได้อย่างไหลลื่น ยกเว้น Black Myth Wukong และ Cyberpunk 2077 ที่มันกินทรัพยากรในระบบมากไป ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม เพราะคำว่าลื่นของแต่ละคนสะกดไม่เหมือนกัน ถึงแม้ Radeon RX 9070 จะออกมาในยุคที่มีฟีเจอร์ Frame Generation แต่การพัฒนาของ Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT ที่พลังดิบ ที่สามารถทำออกมาได้สูงกว่า RX 7900 GRE และ สูงกว่า RX 7800 XT กับ RX 7700 XT มาก ทำให้มาตรฐานความแรงของการ์ดจอระดับ 2K ที่กลายมาเป็น 2K ถึง 4K ได้ ฟีเจอร์ AMD FidelityFX Super Resolution 4 ผู้ใช้งานคงต้องรอให้เกมได้มีการพัฒนานำไปใช้งานจริงมากขึ้น ซึ่งถ้าเกมมันย้อนสามารถย้อนกลับไปใช้ FSR3 ที่สามารถใช้งาน ฟีเจอร์ Frame Generation ที่ประสิทธิภาพที่สามารถยกระดับได้ดีขึ้น พร้อมเทคโนโลยี AMD HYPR-RX, AMD Radeon Super Resolution (RSR), AMD Radeon Anti-Lag และ AMD Radeon Boost ที่เป็นอีกหนึ่งของดีจาก AMD นอกจากนั้นเราได้เห็นการพัฒนาเพื่อสายครีเอเตอร์ ที่ AMD Radeon RX 9070 มีการปรับปรุง Media Engine ให้มีประสิทธิภาพในการสตรีมมิ่งที่ดีกว่า RDNA 3 สามารถบีบอัดภาพคุณภาพที่ดีขึ้น โดยได้แบนวิธมากขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยี AI ใน Radeon RX 9070 ในการใช้งานครีเอเตอร์ใน Lightroom ,Davinci Resolve และ Amuse กับ Procyon ที่ทดสอบออกมาได้เหนือกว่า RX 7700 XT ,RX 7800 XT และ RX 7900 GRE รวมไปถึง 4080 ตามแบบฉบับผู้มาก่อนกาล ซื้อวันนี้ แรงวันหน้า ถ้าพึงพอใจในความแรงของมัน เก็บเงินหรือควักออกมาซื้อไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว ราคาเริ่มต้นที่เร้าใจมาก (ที่เพิ่มอีกไม่มาก ได้ RX 9070 XT) ถ้าใช้ RX 6800 Series หรือ เก่ากว่า แล้วคิดว่ามีงบซื้อการ์ดจอใหม่ AMD Radeon RX 9070 เป็นทางออกที่ดีในงบที่บานปลายไม่มาก อาการอัพราคาคงไม่มากแบบคู่แข่ง AMD แน่นอน ในราคาเริ่มต้น 22,900 บาท ใน RX 9070 และ 24,900 บาท สำหรับ RX 9070 XT
PowerColor Red Devil Radeon RX 9070 เป็นธีมสีดำ แต่มีแอบซ่อนสีแดงด้วยไฟ LED ตามสมัยนิยม แต่ที่ยังสามารถปรับไฟ ARGB จากเมนบอร์ด หรือ กล่อง Sync ได้ลงตัว การออกแบบเป็นหนึ่งความที่สุดในการ์ด Radeon RX 9070 ที่ตัวการ์ดพื้นฐานเดียวกับ PowerColor Red Devil Radeon RX 9070 XT เนื้องานและจุดต่างๆของการ์ดที่ทำออกมาสมกับความเป็นพลังสี ราคาย่อมสูงกว่าราคาเริ่มต้น วันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Special Thanks : AMD Far East | Thailand